ฟันธงกนง.รอบหน้าไม่ลดดอกเบี้ยตามเฟด | ย่อโลกเศรษฐกิจ

ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 แต่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือนต.ค.ที่จะถึงนี้คาดว่าจะยังไม่ปรับลดดอกเบี้ย 

เนื่องจากกนง.น่าจะรอดูทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่จะประกาศ GDP ไตรมาส 3 ปี 2567 ในเดือนพ.ย.นี้ และรอดูรอบการประชุมของเฟดในเดือนพ.ย.ว่าจะลดดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 อย่างที่ฉายภาพไว้หรือไม่ หรือจะลดดอกเบี้ยแรงต่อเนื่องจากครั้งนี้ที่ลดไปถึงร้อยละ0.50 หรือไม่ รวมถึงรอติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ คาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือนพ.ย.

อย่างไรก็ดีเชื่อว่า ในรอบการประชุม กนง.เดือนธ.ค. หรือการประชุมครั้งสุดท้ายของกนง.ในปีนี้มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25  เนื่องจากเป็นช่วงที่ปัจจัยต่าง ๆ ในตลาดเงินตลาดทุนมีความชัดเจน และภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยก็จะชัดเจนขึ้นเช่นกัน พร้อมกับเชื่อว่ามาตรการแจกเงินของรัฐบาลน่าจะไม่ได้เกิดผลรุนแรงต่อภาวะเงินเฟ้อ ส่วนมาตรการแจกเงินเฟส 2 ยังต้องรอดูผลกระทบก่อน

ขณะที่ นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด  มองว่า ธปท.เปิดโอกาสเรื่องการลดดอกเบี้ยมากขึ้น และล่าสุดที่เฟดประกาศลดดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 ก็เป็นการเพิ่มโอกาสในการลดดอกเบี้ยของ กนง.ที่จะใช้พิจารณากำหนดนโยบายการเงินในการประชุมครั้งต่อ ๆ ไป

อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงมุมมองเดิมให้น้ำหนักว่า ในปีนี้ กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยระดับเดิมไว้ตลอดทั้งปี  แต่ก็มีโอกาสมากขึ้นที่ กนง.จะลดดอกเบี้ยได้ ขณะที่ในปีหน้าคาดว่ากนง.มีโอกาสลดดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ในไตรมาสแรกปี 2568   

ด้านนางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่า แม้เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบล่าสุดลงถึงร้อยละ 0.50 แต่ยังให้มุมมองเดิมว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับร้อยละ 2.50  ไปตลอดปีนี้ และจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 โดยคาดว่าจะลด 2 ครั้ง ครั้งละร้อยละ 0.25 ลงมาสู่ระดับร้อยละ 2.00 ได้ในช่วงสิ้นปี 2568