TNN รัฐบาลเตรียมเงินเยียวยาน้ำท่วม 15,000 ล้านบาท

TNN

เศรษฐกิจ

รัฐบาลเตรียมเงินเยียวยาน้ำท่วม 15,000 ล้านบาท

สถานการณ์อุทกภัยยังไม่คลี่คลายแต่หลายหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือและเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชน ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระะทบ พร้อมจับตาการเร่งออกมาตรการเยียวยาน้ำท่วมจากรัฐบาลคาดใช้เงินกว่า 15,000 ล้านบาท


ปัญหาอุทกภัยหลายจังหวัดในขณะนี้โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือที่ไดรับผลกระทบหนักสุด แม้บางจังหวัดจะน้ำลดแล้วแต่ได้รับความเสียหายหนัก ขณะที่หากตรวจสอบงบประมาณของภาครัฐที่จะนำมาใช้เยียวยาแก้ปัญหาน้ำท่วมและกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ โดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะน่าจะแถลงนโยบายต่อสภาฯไม่เกินวันที่ 15 ก.ย.นี้และต้องเร่งประชุมครม.เพื่ออนุมัติมาตรการและการใช้งบเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้รัฐบาลใหม่มีแหล่งเงินงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ไม่น้อยกว่า 3 แสนล้านบาท โดยมาจาก 3 แหล่งงบประมาณได้แก่ 1.งบประมาณตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567 วงเงิน 122,000 ล้านบาท โดยผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว และรอบังคับใช้

2.เงินงบประมาณจากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2568 ซึ่งได้จัดทำงบกลางรายการการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจวงเงิน 152,000 ล้านบาท ที่เสนอโดยรัฐบาลชุดที่แล้วเพื่อรองรับการทำโครงการเงินดิจิทัลแต่หากรัฐบาลปรับเปลี่ยนนโยบายนำงบประมาณส่วนนี้มาใช้จัดทำมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้

3.งบประมาณกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน และจำเป็นเร่งด่วน จากงบประมาณประจำปี 2567 ซึ่งเป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีในการอนุมัติโดยผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งรัฐบาลชุดที่แล้วกันวงเงินไว้ 40,000-50,000 ล้านบาท เพื่อทำโครงการเงินดิจิทัล แต่การใช้งบประมาณส่วนนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต้องเร่งอนุมัติ และเริ่มเบิกจ่ายภายในเดือนก.ย.ทันที


แน่นอนว่าภารกิจเร่งด่วนของนายกรัฐมนตรีและครม.ชุดใหม่คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการฟื้นฟูเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รวมทั้งเตรียมการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำภาคกลางซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจของประเทศโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้มีการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์น้ำแห่งชาติเพื่อรองรับสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงฤดูฝนที่เหลือของปีนี้

ดังนั้นภายหลังการแถลงนโยบายของรัฐบาลในการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการครั้งแรกของรัฐบาลแพทองธารซึ่งจะมีขึ้นช่วงประมาณสัปดาห์ที่ 2 หรือ 3 ของเดือน ก.ย.วาระที่จะเข้าสู่การประชุม ครม.ทันที คือ การปรับรายละเอียดของโครงการเงินดิจิทัลเพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขการใช้งบประมาณ 122,000 ล้านบาท เนื่องจากมีเงื่อนไขว่าจะต้องใช้เงินในส่วนนี้ให้ทันภายในวันที่ 30 ก.ย.2567 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีงบ

ประมาณ ไม่เช่นนั้นเงินส่วนนี้จะต้องโอนไปเป็นเงินคงคลังตามวิธีการทางงบประมาณก่อนจะเสนอของบประมาณเข้ามาใหม่ซึ่งก็จะทำให้ระยะเวลาในการเดินหน้าโครงการนี้ในเฟสแรกต้องขยายเวลาออกไป


นอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุม ครม.นัดแรกของครม.ชุดใหม่จะมีการหารือเรื่องการรับมือสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่ง ครม.จะมีการเร่งอนุมัติงบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเร่งด่วนปีงบประมาณ 2567 เพื่อเยียวยาให้กับครัวเรือนที่ประสบภัยน้ำท่วมโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือโดยใช้งบกลางฯไว้ประมาณ 10,000-15,000 ล้านบาท ส่วนความเสียหายน้ำท่วมที่อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายทั้งบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรจะเสนอของบกลางฯในปี 2568 ต่อไป


นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้ประเมินสถานการณ์น้ำท่วมเพื่อจัดทำแพคเก็จช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนผ่านธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ 7 แห่ง โดยกระทรวงการคลังเห็นว่าจากสถานการณ์อุทกภัยหลายพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลางและภาคใต้ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และการดำเนินธุรกิจของประชาชนมากอย่างไรก็ตามเพื่อให้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน สถาบันการเงินเฉพาะกิจจึงออกมาตรการด้านการเงินทั้งมาตรการพักชำระหนี้ ลดดอกเบี้ย และมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย

ข่าวแนะนำ