ชะตากรรมคนรุ่นใหม่จีนยุคว่างงานพุ่ง

คนรุ่นใหม่จีนกำลังดิ้นรนทำอาชีพที่ไม่ตรงสายงาน หลังอัตราว่างงานพุ่งเป็นประวัติการณ์

“รอยเตอร์ส” ระบุว่า ในปีนี้มีบัณฑิตจีนจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราว 11.79 ล้านคน ซึ่งคนรุ่นใหม่เหล่านี้กำลังเผชิญปัญหาว่างงานครั้งใหญ่แบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ท่ามกลางกระแสปรับลดพนักงานในวงกว้าง โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศ รวมถึงภาคการเงิน ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่อย่าง “เทสลา” (Tesla), IBM และ “ไบต์แดนซ์” (ByteDance) ก็เลิกจ้างพนักงานในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

อัตราว่างงานของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในเขตเมือง ซึ่งมีอายุ 16-24 ปี เพิ่มขึ้นแตะร้อยละ 17.1 ในเดือนกรกฎาคม และนี่ยังไม่นับรวมการว่างงานของคนรุ่นใหม่ในชนบทอีกหลายล้านคน ขณะที่ทางการปรับเกณฑ์ในการประเมินจำนวนผู้ว่างงานหนุ่มสาว โดยไม่นับรวมผู้ที่กำลังศึกษาอยู่

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้คนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยต้องดิ้นรนทำงานที่ไม่ตรงกับสายที่เรียนจบ หรือแม้แต่ทำงานที่ได้รับค่าตอบแทนต่ำกว่าวุฒิ

อย่างกรณีของ “เหอ อาจุน” ที่ออกจากงานเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วหลังการปราบปรามธุรกิจสถาบันกวดวิชา ทำให้ต้องมาทำวิดีโอบล็อกที่มีผู้ติดตาม 8,400 คน ปัจจุบัน “เหอ” มีรายได้เดือนละ 5,000 หยวน จากการรับโฆษณาในบล็อก ตัดต่อคอนเทนต์ ให้คำปรึกษาส่วนตัว และขายงานฝีมือตามแผงลอยข้างทาง

“เหอ” มองว่า ในอนาคตการทำงานอิสระ หรือฟรีแลนซ์ จะกลายเป็นเรื่องปกติ ถึงแม้จะทำงานประจำ แต่ทักษะฟรีแลนซ์ก็ยังสำคัญ เพราะจะกลายเป็นทักษะสำรอง เช่นเดียวกับการขับรถ

รัฐบาลจีนสนับสนุนบุคลากรกลุ่มพลังการผลิตใหม่ ที่มุ่งเน้นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์ แต่ก็มีเสียงเตือนว่า นี่อาจทำให้ความต้องการแรงงานกลุ่มอื่น ๆ ลดลง และเสี่ยงที่จะทิ้งคนรุ่นใหม่การศึกษาสูงที่ไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมเกิดใหม่

ปัจจุบัน มีผู้ทำงานในระบบเศรษฐกิจที่จ้างงานแบบครั้งคราว หรือ Gig Economy มากกว่า 200 ล้านคน และภาคส่วนนี้ที่เคยเติบโตอย่างรวดเร็วก็กำลังมีปัญหาด้านกำลังการผลิตล้นเกิน อย่างบริการเรียกรถโดยสารในหลายเมืองที่อยู่ในภาวะอิ่มตัว

แม้แต่งานในภาครัฐที่เคยมีความมั่นคงก็หนีไม่พ้นกระแสปลดคน รวมถึงทางการกรุงปักกิ่งที่ประกาศลดจำนวนเจ้าหน้าที่รัฐลงร้อยละ 5 ส่วนมณฑลเหอหนานก็ปลดคน 5,600 ตำแหน่งเมื่อต้นปีนี้ และมณฑลซานตงลดคนร่วม 10,000 คนตั้งแต่ปี 2565

ที่มา รอยเตอร์ส

ข่าวฮิตติดแท็ก