"เอส แอนด์ พี" ใช้จุดแข็งฝ่ากำลังซื้อซบ l การตลาดเงินล้าน
"เอส แอนด์ พี" แบรนด์ร้านอาหารและเบเกอรี ครึ่งปีแรกทรงตัว ส่วนครึ่งหลังต้องเร่งเครื่องหนักขึ้น นำจุดแข็งเดิมร้านเบเกอรีอบสด กลับมาอีกครั้ง
บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการ งวดครึ่งปีแรก 2567 บริษัทฯ มีรายได้ 2,890 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย หรือร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลัก มาจากธุรกิจร้านอาหาร มีรายได้ลดลงไป ร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากยอดขาย ส่วนซื้อกลับบ้าน ลดลงร้อยละ 3 บริการจัดส่ง (หรือ ดีลิเวอรี) ลดลง ร้อยละ 8 โดยเฉพาะร้านในศูนย์การค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ต ขณะที่ รายได้จากการรับประทานที่ร้านเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 โดยเฉพาะจากร้านในโรงพยาบาลและสนามบิน
คุณ กำธร ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและการผลิต ของ เอส แอนด์ พี บอกว่า ยอดขายของบริษัทฯ เท่ากับปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าเช่าในห้าง และที่สนามบินเพิ่มขึ้น หลังช่วงโควิด ค่าเช่าลดลงไป แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติแล้ว ค่าเช่าจึงกลับมาเหมือนเดิม แต่ยอดขายไม่ได้เพิ่มขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับเชนร้านอาหารบางราย ที่ยอดขายลดลง แต่บริษัทฯ ยังคงรักษายอดขายให้เท่าเดิมได้ เพราะมีการกระจายรายได้ โดยการรับทำอาหารให้กับทั้ง สายการบิน และ เชน เรสเตอรองต์ รายอื่น ๆ ซึ่งรายได้จากส่วนนี้เพิ่มขึ้น ทำให้ยอดขายโดยรวมไม่ลดลงมากนัก
ส่วนการแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารและเบเกอรี คุณกำธร กล่าวว่า มีแข่งขันกันมากขึ้น แต่การจะแข่งขันได้ จะต้องจับจุดเด่นของบริษัทฯ เองให้ได้ว่าจะไปทางไหน เช่น ในกลุ่มอาหาร จะต้องมีเมนูหลักที่เป็นพื้นฐาน และมีเมนูพิเศษ เพื่อมาดึงดูดลูกค้า เช่น ข้าวแช่ และข้าวซอย ส่วนเบเกอรี ก็เช่นเดียวกัน สินค้าที่ขายดีอยู่แล้วก็ต้องรักษายอดขายไว้ แต่ก็ต้องมีอะไรใหม่ ๆ มาดึงดูดอยู่เสมอ เช่น แคมเปญตามเทศกาล เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาด เช่นล่าสุด เทศกาลไหว้พระจันทร์ แม้จะมีเป็นประจำทุกปี แต่ก็ต้องสร้างความแปลกใหม่ โดยปีนี้ มีถึง 12 รสชาติ (17 ไส้) และมีรสชาติใหม่ เช่น ไส้พุทราจีน ไข่ 1 เพิ่มเข้ามาด้วย
โดย เอส แอนด์ พี เป็นผู้นำในตลาดขนมไหว้พระจันทร์ ด้วยส่วนแบ่งตลาด ร้อยละ 30-40 มียอดขายต่อปีอยู่ที่ 4-5 ล้านชิ้น เฉพาะช่วงเทศกาล ยอดขาย อยู่ที่ราว 3 ล้าน 5 แสนชิ้น และคาดว่าช่วงเทศกาลปีนี้ ยอดขายขนมไหว้พระจันทร์ จะเติบโตอีกร้อยละ 15
สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง ผู้บริหาร เอส แอนด์ พี กล่าวว่า จะต้องทำงานให้หนักมากขึ้น เพื่อให้เติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนกำลังซื้อชะลอตัว มองว่าส่งผลกระทบต่อยอดขายส่วนหนึ่ง แต่ก็ต้องกลับมาดูตัวเองด้วยว่า มีการออกโพรดักส์ช้าไปหรือไม่ หรือออกโปรโมชันถูกใจลูกค้าหรือไม่
อย่างไรก็ตาม คาดหวังว่าเศรษฐกิจจะกลับมาคึกคัก หลังจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล มีผลบังคับใช้ ส่วนการขยายสาขา อาจทำได้ไม่เต็มที่นัก เนื่องจากเน้นการเปิดสาขาอย่างระมัดระวัง และต้องแน่ใจว่าสาขาที่จะเปิดใหม่ จะต้องไม่ขาดทุน อยู่ได้นาน และทำกำไรได้ // ซึ่งร้านอาหาร ที่อยู่ในโรงพบาบาล และสนามบิน นั้น ถือว่าทำยอดขายได้ดี
ส่วนร้านเบเกอรี บริษัทฯ ได้ปรับปรุงสาขาเดิม มุ่งตอกย้ำภาพการเป็นร้าน เฟรช เบเกอรี (fresh bakery) หรือร้านในรูปแบบ อบสด ให้กลับมาชัดเจนอีกครั้ง เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาให้ความนิยมสินค้าอบสดใหม่มากขึ้น หลังช่วงโควิด 19 ระบาด ทำให้บริษัทฯ ต้องเน้นขายสินค้าแบบแพคเกจเป็นหลัก เรียกว่า เบเกอรี สตูดิโอ (Bakery Studio) โดยช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เปิดได้แล้วถึง 36 จุด และทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 15-20 ต่อสาขาที่ไปเปิด ทั้งปีนี้ ตั้งเป้าจะเปิด เบเกอรี สตูดิโอ ให้ได้ถึง 90 สาขา
ข่าวแนะนำ