วิกฤต! ม.ญี่ปุ่นจำยอมปิดตัว หลังเด็กเกิดน้อย l การตลาดเงินล้าน

คณะทำงานเฉพาะกิจของสภากลางเพื่อการศึกษา ซึ่งให้คำปรึกษาแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของญี่ปุ่น กำลังพิจารณาอนาคตของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อตอบสนองต่ออัตราการเกิดที่ต่ำของญี่ปุ่น

ขณะเดียวกัน สมาคมมหาวิทยาลัยแห่งชาติของญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเตือนว่ามหาวิทยาลัยระดับชาติกำลังเผชิญกับขีดจำกัดทางการเงินขั้นร้ายแรง คณะทำงานเฉพาะกิจดังกล่าวมีการประชุมทุกเดือนนับตั้งแต่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ มาซาฮิโตะ โมริยามะ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะส่งรายงานขั้นสุดท้ายต่อรัฐมนตรีภายในสิ้นเดือนมีนาคมปีหน้า

ผู้ที่มีอายุ 18 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาส่วนใหญ่ที่เข้ามหาวิทยาลัย มีประมาณ 1 ล้าน 1 แสนคนในปีที่แล้ว ลดลงอย่างมากจากจุดสูงสุดที่ประมาณ 2 ล้าน 4 แสน 9 หมื่นคนในปี 2509 ร่างรายงานชั่วคราวของคณะทำงานเฉพาะกิจคาดการณ์ว่าจำนวนเด็กอายุ 18 ปี จะยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยแตะประมาณ 820,000 คนภายในปี 2583 ส่งผลให้จำนวนผู้เข้ามหาวิทยาลัยคาดว่าจะลดลงจากประมาณ 630,000 คนในปีที่แล้วเป็นประมาณ 510,000 คนในปี 2583

คณะทำงานเฉพาะกิจย้ำถึงความจำเป็นที่มหาวิทยาลัยจะต้องขยายฐานนักศึกษาของตนให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยดึงดูดบุคคลในวงกว้างขึ้น รวมถึงผู้ใหญ่วัยทำงานและนักศึกษาต่างชาติ โดยรายงานระบุว่าการรักษาระดับการลงทะเบียนที่ดีนั้นจะไม่สามารถบรรลุได้ หากไม่เปลี่ยนแปลงการมุ่งเน้นเฉพาะกลุ่มเด็กอายุ 18 ปีในปัจจุบัน

และยังเตือนมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ว่าจะเผชิญกับการขาดแคลนผู้สมัครอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควบคู่ไปกับการระงับการรับสมัครหรือแม้กระทั่งการล้มละลาย ซึ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นในการออกมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม

ร่างรายงานยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่มหาวิทยาลัยเอกชนต้องเผชิญเป็นพิเศษ โดยเตือนว่าการเข้าถึงการศึกษาคุณภาพสูงอาจกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นเรื่อย ๆ ในพื้นที่ชนบท รายงานระบุว่าปัจจุบันประมาณร้อยละ 53 ของมหาวิทยาลัยเอกชน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชนบท กำลังดิ้นรนในการดึงดูดผู้สมัครให้มากเพียงพอต่อความจุในการลงทะเบียน

มาเจาะลึกดูมุมมองทางการเงินบ้าง สมาคมมหาวิทยาลัยแห่งชาติของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยแห่งชาติ 82 แห่งทั่วประเทศ ออกแถลงการณ์ในงานแถลงข่าวฉุกเฉินเมื่อเดือนมิถุนายน เตือนว่าสถานการณ์ทางการเงินของพวกเขากำลัง ถึงขีดจำกัดขั้นวิกฤตเนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น และยังเรียกร้องให้มีมาตรการบรรเทาทุกข์ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

ซึ่งในการแถลงข่าว เคียวสึเกะ นากาตะ ประธานสมาคมและประธานมหาวิทยาลัยสุคุบะ ได้กล่าวถึงความท้าทายทางการเงินที่มหาวิทยาลัยระดับชาติต้องเผชิญการตรวจสอบงบการเงินของแต่ละมหาวิทยาลัยในปีงบประมาณที่แล้ว แสดงให้เห็นชัดเจนว่าพวกเขากำลังเผชิญกับปัญหาสำคัญและยากลำบากจริงๆจากค่าสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่าย รวมถึงเบี้ยประกันสังคมที่เพิ่มสูงขึ้น

ด้านมหาวิทยาลัยโตเกียวกำลังหารือเกี่ยวกับความเหมาะสมในการเพิ่มค่าเล่าเรียนเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายทางการเงินที่รุนแรง ซึ่งโดยปกติแล้วค่าเล่าเรียนสำหรับมหาวิทยาลัยระดับชาติถูกควบคุมโดยกฤษฎีกากระทรวง ค่าธรรมเนียมรายปีมาตรฐานกำหนดไว้ที่ประมาณ 530,000 เยน ซึ่งจะสามารถเพิ่มได้เป็นประมาณ 640,000 เยน ถึงแม้ว่าที่ผ่านมามหาวิทยาลัยจะคงค่าเล่าเรียนไว้ในอัตรามาตรฐาน แต่ตอนนี้กำลังพิจารณาที่จะเพิ่มค่าเล่าเรียนให้ถึงขีดจำกัดสูงสุด

ในเดือนกรกฎาคม กระทรวงศึกษาธิการได้จัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบประวัติทางการเงินของมหาวิทยาลัยระดับชาติ และสำรวจแนวทางแก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยค่าเล่าเรียนก็อยู่ในหัวข้อที่ถูกพิจารณาด้วย เพราะหากปล่อยสถานการณ์ไว้โดยไม่มีการจัดการ บางพื้นที่อาจไม่มีมหาวิทยาลัยใด ๆ เหลืออยู่