แห่งแรกในเอเชีย "Trip.com" เปิดสตูดิโอไลฟ์ขายดีล l การตลาดเงินล้าน

คุณ ซุน เทียนซู รองประธานกรรมการ ทริป ดอท คอม กรุ๊ป กล่าวว่า การไลฟ์ ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญ มีเป้าหมายเพื่อมอบข้อเสนอบริการและผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว หรือ ดีลท่องเที่ยวพิเศษ ให้กับนักเดินทาง และยังเป็นการช่วยเพิ่มช่องทางการขายให้กับพันธมิตรทางธุรกิจอีกด้วย 

และสตูดิโอ สตรีมมิ่ง ในไทย ยังเป็นแห่งแรกนอกประเทศจีน ซึ่ง คุณ ซุน บอกถึงเหตุผลการเลือกประเทศไทย โดยเปรียบเทียบว่า ตลาดการไลฟ์ในจีน แม้จะเติบโต แต่ก็เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงมาก เรียกได้ว่าเป็นตลาด เรด โอเชียน ก็ว่าได้ แต่หากเทียบกับตลาดอื่น ๆ เช่นยุโรป ที่การไลฟ์ ยังอยู่ในจุดเริ่มต้นเท่านั้น จึงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก

เช่นเดียวกับ ไทย ซึ่งมีปัจจัยเอื้ออยู่หลายด้าน ได้แก่ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในไทย สูงถึงร้อยละ 80-90 คนไทย ใช้งานโซเชียล ในอัตราสูง และปกติการดูไลฟ์ คนส่วนใหญ่จะดูเพื่อความบันเทิง แต่การไลฟ์แนวธุรกิจแม้จะมีมากขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่มากนัก ดังนั้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการสร้างฐานในไทย

ประกอบกับ ไทย เป็นประเทศที่มีทรัพยากรในการท่องเที่ยวสูงมาก ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของนักเดินทาง และมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว จึงเหมาะกับการเข้ามาบุกตลาด 

อย่างไรก็ดี แม้ว่าการไลฟ์ จะเป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ แต่จะไม่สามารถเลียนแบบสไตล์ของบริษัทฯ ได้ เพราะ ทริป ดอท คอม อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมากว่า 25 ปี ทำให้สามารถรวบรวมรีวิว และข้อมูลต่าง ๆ จากลูกค้าที่ใช้บริการ มาเป็นฐานข้อมูล และมี AI ช่วยในการวิเคราะห์ ว่าลูกค้าชอบแบบไหน ชอบสินค้าอะไร และสินค้าแบบใดที่จะเหมาะสมกับลูกค้า เพื่อจะสามารถนำมาออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ได้อย่างแม่นยำ

คุณ ซุน กล่าวถึงภาพรวมการท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา บอกว่า ตลาดโดยรวมเติบโตมากขึ้น ทำให้บริษัทมีตัวเลขรวมการเติบโตถึงร้อยละ 30 โดย บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์หลักที่เรียกว่า จีทู (G2) หรือ 2 จี ได้แก่ โกลบอลไลเซชัน (Globalization) คือการขยายตลาดจากจีนไปยังตลาดอื่น ๆ ตลอดจนการลงทุนในหลาย ๆ ตลาด เช่นการมีฐานที่กรุงเทพฯ และจะไปต่อที่สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลี และในตะวันออกกลาง ส่วน จี ที่สอง คือ เกรท เซอร์วิส (Great Service) คือเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพ ด้วยบริการตลอด 24 ชั่วโมง 

สำหรับภาพรวมการท่องเที่ยวของไทย คุณ เจษฎาพันธุ์ จันทขันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด ประจำประเทศไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ของ Trip.com ให้มุมมองว่า กลับมาเติบโต ดีกว่าช่วงก่อนโควิด 19 แล้ว ทั้งการเที่ยวในประเทศ และเที่ยวต่างประเทศ ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็กลับมาเที่ยวไทยมากกว่าช่วงโควิดเช่นกัน ขณะที่นักท่องเที่ยวจีน เอง พบว่าตัวเลขก็กำลังเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ การท่องเที่ยวรูปแบบเที่ยวเอง หรือเที่ยวแบบอิสระ (FIT) พบว่ามีการเติบโตขึ้น

ส่วนเศรษฐกิจที่ยังซบเซาอยู่นี้ มองว่า ไม่ได้มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว หรือหากมีผลกระทบ ก็น้อยมาก เห็นได้จากตัวเลขการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายังเติบโตสูง และพฤติกรรมของคนไทยเอง ที่นอกจากจะชอบดีลพิเศษ และมีการเปรียบเทียบราคาในการตัดสินใจแล้ว ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ลูกค้าคนไทย จะเน้นประหยัดเงินในเรื่องอื่น ๆ แต่เรื่องการท่องเที่ยวยังเป็นเหมือนเดิมเพื่อมอบความสุขให้กับชีวิต