TNN ตลาดรวมอสังหาฯ แนวโน้มดี ขึ้นเหตุรัฐออกมาตรการกระตุ้น แบงก์เริ่มปล่อยกู้

TNN

เศรษฐกิจ

ตลาดรวมอสังหาฯ แนวโน้มดี ขึ้นเหตุรัฐออกมาตรการกระตุ้น แบงก์เริ่มปล่อยกู้

ตลาดรวมอสังหาฯ แนวโน้มดี ขึ้นเหตุรัฐออกมาตรการกระตุ้น แบงก์เริ่มปล่อยกู้

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยมีสัญญาณปรับตัวในทิศทางดีขึ้น รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหา และสถาบันการเงินเริ่มปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น ขณะที่จีนยังเบอร์หนึ่งต่างชาติซื้อห้องชุด

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC ) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ยังพบการชะลอตัวในด้านอุปสงค์ต่อเนื่อง แต่มีทิศทางที่ดีขึ้นจากไตรมาส 1 แม้ว่าการขยายตัวของจำนวนหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ และจำนวนเงินสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลปล่อยใหม่ในไตรมาส 2 ยังคงติดลบเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มีทิศทางที่ติดลบน้อยลง และมีการขยายตัวจากไตรมาส 1อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน ที่เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567 


โดยในช่วงไตรมาส 2 หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศมีจำนวน 86,998 หน่วย มูลค่า 243,404 ล้านบาท ซึ่งจำนวนหน่วยลดลงร้อยละ 4.5 และมูลค่าลดลงร้อยละ 5.7 น่าจะเป็นผลจาการที่สถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ โดยพบว่ามูลค่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลปล่อยใหม่ทั่วประเทศมีจำนวน 144,115 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน


ส่งผลให้ครึ่งปีแรก 2567 มีจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยเพียง 159,952 หน่วย มูลค่า 452,136 ล้านบาท ซึ่งลดลงร้อยละ 9.0 และมูลค่าลดลง 9.4 และมีจำนวนเงินสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลปล่อยใหม่ เพียง 265,644 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 15.2 เมื่อเที่ยบกับครึ่งปีแรกของปี 2566


อย่างไรก็ตาม REIC ประเมินทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยปี 2567 โดยได้มีการปรับประมาณการจากข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงในช่วงครึ่งปีแรก ประกอบด้วยอัตราขยายตัว GDP อัตราดอกเบี้ย MRR เฉลี่ย 6 ธนาคารอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอัตราดูดซับรวมถึงผลกระทบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์  


ส่วนสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในไตรมาส 2 พบว่าสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติมีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด 3,342 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 11.8  ของหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งหมด มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์อยู่ที่ 14,874 ล้านบาท ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า พบสัญญาณการโอนกรรมสิทธิ์ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญของผู้ชื่อสัญชาติจีน รัสเชีย และพม่า 


ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาภาพรวมในช่วงครึ่งปีแรก พบว่า มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ 7,280 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13.6 ของหน่วย โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งหมด ส่วนมูลค่าคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 24.6 หรือมีมูลค่า 32,888 ล้านบาท โดยผู้ชื้อสัญชาติจีนยังคงมีสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ด้วย จำนวน 2,872 หน่วย มูลค่ารวม 13,203 ล้านบาท 


ขณะที่อันดับ 2 คือสัญชาติพม่า จำนวน 638 หน่วย มูลค่า 3,240 ล้านบาท, อันดับ 3 สัญชาติรัสเซีย จำนวน 567 หน่วย มูลค่า 1,874 ล้นบาท, อันดับ 4 สัญชาติไต้หวัน จำนวน 326 หน่วย มูลค่า 1,592 ล้านบาท และอันดับ 5 สัญชาติสหรัฐอเมริกา จำนวน 292 หน่วย มูลค่า 1,580 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ