อี-คอมเมิร์ซจีนแผ่วหลังผู้บริโภคลดใช้จ่าย | ย่อโลกเศรษฐกิจ
“อาลีบาบา” รายได้ไตรมาสล่าสุดต่ำกว่าคาด ขณะ JD.com รายได้โตสวนทางจากกลยุทธ์ลดราคา
“อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง” ทำรายได้ไตรมาสล่าสุดที่สิ้นสุดเดือนมิถุนายน อยู่ที่ 2.4324 แสนล้านหยวน หรือราว 3.398 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้กับ LSEG อยู่ที่เฉลี่ย 2.4905 แสนล้านหยวน รายได้จากธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในจีนลดลงร้อยละ 1 แม้ว่าจำนวนผู้ซื้อและความถี่ในการซื้อจะช่วยหนุนคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นในระดับเลข 2 หลักก็ตาม สะท้อนถึงแรงกดดันจากการที่ผู้บริโภคจีนใช้จ่ายอย่างระมัดระวังท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ “อาลีบาบา” ยังเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดจากคู่แข่ง ทั้ง JD.com, และแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ ที่เน้นขายสินค้าราคาถูก อาทิ “พินตัวตัว” และ “โต่วอิน” ของค่ายไบต์แดนซ์ เจ้าของแบรนด์ TikTok
“อาลีบาบา” ใช้แนวทางการลดราคาและส่งเสริมการขายแบบแข็งกร้าว เพื่อดึงดูดเหล่าผู้บริโภค ท่ามกลางแรงกดดันเรื่องส่วนต่างกำไรในภาคค้าปลีก
“วินซี จาง” นักวิเคราะห์จาก M ไซเอนซ์ มองว่า การใช้จ่ายในจีนลดลงจริง ผู้บริโภคซื้อสินค้าลดลง รวมถึงซื้อสินค้าราคาถูกลงและใช้จ่ายแบบมีเหตุผลมากขึ้น ในช่วงครึ่งปีหลัง อาลีบาบาและ JD.com น่าจะยังคงเผชิญกับความท้าทายต่อไป
อย่างไรก็ตาม JD.com มีรายได้สุทธิในไตรมาส 2 ของปีนี้ที่สิ้นสุดเดือนมิถุนายน อยู่ที่ 2.914 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 1.05 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้นจาก 8.3 พันล้านหยวนในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
รายงานผลประกอบการล่าสุดทำให้ราคาหุ้นของ JD.com ในฮ่องกงขยับขึ้นร้อยละ 6.5
ที่มา TNN
ข่าวแนะนำ