ชี้เป้า "สหรัฐ - ยุโรป" โอกาสการลงทุนที่ยังไปต่อ
"สหรัฐอเมริกาและยุโรป" ยังคงเป็น 2 การลงทุนเป้าหมายที่ บลจ.เอ็กซ์สปริง แนะนำสำหรับการหาโอกาสลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปี เพราะเชื่อว่าทั้ง 2 ตลาดยังมีปัจจัยบวกอีกมากรออยู่
คุณยศกร ฟอลเล็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง หรือ XSpring AM บอกว่าในช่วงครึ่งหลังของปี สินทรัพย์ต่างประเทศ จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่บริษัทจะนำมาผสมผสานในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้นักลงทุนลง เพราะทีมผู้จัดการกองทุน ยังคาดว่าแนวโน้มและทิศทางการลงทุนในต่างประเทศยังคงสดใสมากกว่าไทย แม้ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจอาจจะถดถอยในเขตเศรษฐกิจสำคัญจะเพิ่มขึ้น แต่ต่างประเทศมีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่ดีกว่า รวมไปถึงการเปิดรับนวัตกรรม และการจัดการทางการค้าที่ลดทอนความเสี่ยงลงจากการทุ่มตลาดทำให้โอกาสในการลงทุนยังมีมากกว่า
ในขณะที่สินทรัพย์ที่ XSpring แนะนำให้ลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังคงเน้นไปที่การลงทุนแถบสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยแม้ทั้ง 2 ตลาดจะบวกขึ้นไปมากแล้ว แต่ทีมผู้จัดการกองทุนยังมองว่ามีหลายปัจจัยบวกที่จะสนับสนุนโอกาสดังกล่าว อย่างสหรัฐฯ แม้การลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และมีโอกาสที่ฟันด์โฟล์จะไหลออก แต่การที่ดอลลาร์อ่อน ก็จะสนับสนุนรายได้ของบริษัทที่มีธุรกิจนอกประเทศ บวกกับมองว่าความเสี่ยงด้านปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ก็จะยังทำให้ดอลลาร์น่าสนใจในแง่สินทรัพย์ปลอดภัย และอีกหนึ่งข้อดีของสหรัฐ คือปัจจุบันธนาคารกลางมีกระสุนด้านนโยบายการเงินที่สูง ดังนั้น ในกรณีที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยจริง ก็เชื่อว่าจะเห็นการใช้ยาแรงด้วยการลดดอกเบี้ยลง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็เชื่อว่าตลาดจะตอบรับในเชิงบวกเช่นกัน
ส่วนภูมิภาคยุโรปที่เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว ก็มองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจเนื่องจากทำให้ต้นทุนทางการเงินบางส่วนในยุโรปลดลง เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะในหมู่ประเทศตอนใต้ของยุโรปเช่น อิตาลี สเปน เป็นต้น
ด้านมุมมองต่อตลาดหุ้นไทย XSpring มองว่าแม้ราคาหุ้นไทยจะน่าสนใจในแง่ Valuation แต่ในแง่ปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทย มองว่ายังไม่น่าสนใจและยังไม่น่าดึงดูดพอที่จะจูงใจให้เงินลงทุนจากต่างชาติ ไหลกลับเข้ามาลงทุน ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มการปรับประมาณการกำไรต่อหุ้นของไทย (EPS) ในภาพรวมที่ยังคงลดลง บรรยากาศทางการเมืองที่ยังไร้เสถียรภาพ ประกอบกับเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอโดยคาดว่า GDP ของไทยทั้งปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 2.00 เท่านั้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลให้ยังไม่เห็นเงินต่างชาติไหลกลับเข้ามา แม้ราคาหุ้นจะน่าสนใจก็ตาม
และด้วยภาพดังกล่าว XSpring จึงประเมินในภาพรวมว่าดัชนีจะสามารถยืนอยู่แนวรับระยะสั้นที่ 1,280 จุดได้ แต่ก็ให้แนวรับเอาไว้ไปที่ 1,200 – 1,250 จุด และแนวต้านทางเทคนิคที่ 1,430 – 1,470 จุด พร้อมทั้งแนะนำนักลงทุนที่ยังมองบวกต่อตลาดหุ้นไทย ให้เลือกลงทุนเป็นรายอุตสาหกรรมเช่น กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) หรือกลุ่มบริการสุขภาพ (Healthcare) ที่กำไรในหมวดอุตสาหกรรมยังคงปรับตัวขึ้น
ปิดท้ายด้วยภาพรวมการเติบโตของ XSpring ในช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมา พบว่าแม้จะเป็นช่วงที่ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยสดใส แต่ XSpring ยังสามารถสร้างผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ โดยสามารถเพิ่มสัดส่วนสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) ให้เติบโตขึ้นจาก 6,928 ล้านบาท เมื่อสิ้นปี 2566 เป็น 8,501 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 22.70 โดยปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตในครั้งนี้ มาจากการสร้างความแตกต่างในบริการของ XSpring AM ที่เน้นกลยุทธ์ในการใช้ Ecosystem ของกลุ่ม XSpring ที่มีบริการทางการเงินอย่างครบวงจรเข้ามาต่อยอดความต้องการทางการเงินและการลงทุนของลูกค้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
ข่าวแนะนำ