รายใหญ่เน้นถือเงินสด-เทขายหุ้น หลบความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัว
ผลจากความผันผวนที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นโลก ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้บรรดาผู้จัดการกองทุนที่บริหารกองทุนขนาดใหญ่ของโลก ต่างตัดสินใจปรับพอร์ตครั้งใหญ่ ด้วยการหันมาถือเงินสดมากขึ้น พร้อมๆ กับการลดสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นลง
ผลสำรวจความคิดเห็นผู้จัดการกองทุนทั่วโลกโดย "แบงก์ ออฟ อเมริกา" (BofA) ซึ่งทำการสำรวจความคิดเห็นผู้จัดการกองทุน 189 ราย ที่บริหารสินทรัพย์รวมกันกว่า 508,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พบว่าบรรดาผู้จัดการกองทุน ต่างพิจารณาปรับเปลี่ยนพอร์ตโฟลิโอในเดือนสิงหาคม ด้วยการหันมาถือครองเงินสดมากขึ้น พร้อมกับปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลง เนื่องจากความเชื่อมั่นต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน
โดยผลสำรวจดังกล่าว บ่งชี้ว่ามีผู้จัดการกองทุนเพียงร้อยละ 31 เท่านั้น ที่ยังคงเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น (Overweight) แต่ระดับดังกล่าว ก็ลดลงอย่างมาก จากระดับร้อยละ 51 ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งส่วนทางกับสัดส่วนการถือเงินสดเฉลี่ย ที่กลับเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.3 ของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ จากระดับร้อยละ 4.1 ในเดือนก่อนหน้า
ผลสำรวจของ "แบงก์ ออฟ อเมริกา" ชี้ว่าปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการปรับพอร์ตของผู้จัดการกองทุน มาจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนกรกฎาคม ที่ออกมาอ่อนแอเกินคาด รวมถึงความผันผวนในตลาดเงินที่เกิดจากการแข็งค่าขึ้นของเงินเยน
ส่วนผลสำรวจมุมมองที่ว่าบรรดาผู้จัดการกองทุน กังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกหรือไม่ ผลที่ออกมา พบว่าผู้จัดการกองทุนร้อยละ 47 คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลก มีความเสี่ยงจะชะลอตัวลงในอีก 12 เดือนข้างหน้า
ข่าวแนะนำ