เซ็นสัญญาเรียบร้อย รถไฟฟ้าสายสีส้ม วงเงิน 1.4 แสนล้าน เปิดให้บริการภายในปี 71
เซ็นสัญญากันแล้วเรียบร้อย โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม คาดสามารถให้บริการประชาชนได้ภายในปี 71 ส่วนอัตราค่าโดยสารกำหนดไว้ที่ 17-42 บาท
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระหว่าง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) พร้อมกล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ลงนามในวันนี้ เป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนในกรุงเทพและปริมณฑล และที่สำคัญจะช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้อย่างน้อย ร้อยละ 0.1 ของ จีดีพี จากมูลค่าการลงทุนของโครงการ 1.4 แสนล้านบาท เกิดการจ้างงานอย่างน้อย 30,000 ตำแหน่ง เกิดการจับจ่ายซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างราว 80,000 ล้านบาท
การดำเนินการจะมี 2 ส่วน คือ การเดินรถ โดยกระทรวงจะเร่งรัดให้ทางหน่วยงานดำเนินงานติดตั้งระบบรถไฟฟ้า ในส่วนสายสีส้มตะวันออก(ช่วงศูนย์วัฒนธรรม แห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์)) ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี ที่ก่อสร้างเสร็จไปแล้วตั้งแต่ปี 66 ให้สามารถเดินรถได้โดยเร็วที่สุด โดยทาง BEM จะจัดหารภายในปีนี้ เพื่อให้มีรถมาวิ่งให้ได้ในช่วงปลายปี 70 หรือต้นปี 71 ซึ่งคาดคาดว่ามีผู้โดยสารราว 1.5 แสนคนต่อวัน
อีกส่วนคืองานก่อสร้าง รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี ทาง BEM สามารถเข้าดำเนินการได้เลยทันที ด้วย รฟม.ได้เตรียมพื้นที่ไว้พร้อมก่อสร้าง โดยตามกรอบเวลาจะแล้วเสร็จราวปี 73 และสามารถเดินรถได้ตลอดสายสีส้ม รองรับผู้โดยสาร 4 แสนคนต่อวัน
สำหรับอัตราค่าโดยสารของสายสีส้มกำหนดไว้อยู่ที่ 17-42 บาท ซึ่งตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่จะให้เก็บอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น ทางภาครัฐจะชดเชยส่วนเกินของค่าโดยสารจาก 20 บาทให้กับเอกชน โดยด้วยการนำเงินกองทุนตั๋วร่วมและกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ที่จะดำเนินการจัดทำ พรบ.ในเร็วๆนี้ เพื่อมาดูแลค่าโดยสารดังกล่าว
ด้านนายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล กรรมการบริหาร BEM กล่าวว่า การดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มนั้น ทางบริษัทจะกู้เงินเต็มจำนวน 1.2 แสนล้านบาท จากธนาคารกรุงเทพเพียงรายเดียว และอาจมีการออกหุ้นกู้บ้างบางส่วน มาเพื่อซื้อขบวนรถไฟฟ้าและงานก่อสร้าง สำหรับอัตราค่าโดยสารได้มีการเจรจาปรับราคาลงกรอบเดิม 20-60 บาท เป็น 17-42 บาท และจะต้องมีการปรับราคาทุกๆ 2 ปี
ด้านนายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ BEM กล่าวว่า มีการคาดการณ์เมื่อเปิดบริการสายสีส้มในปี 71 จะช่วยเพิ่มยอดผู้โดยสารในสายสีน้ำเงินด้วย ราว 1 แสนคน จากปัจจุบันอยู่ที่ 5 แสนคน เป็น 6 แสนคน หรือจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ราวร้อยละ 20 เพราะปกติจะโตขึ้นราว ร้อยละ 4-5 พร้อมกันนี้ทาง BEM เตรียมสั่งรถไฟฟ้าสายน้ำเงินจำนวน 21 ขบวน พร้อมกับสายสีส้ม 30 ขบวน โดยหลักการคัดเลือกขบวนรถจะไม่จำกัดแค่รายเดิมที่ให้บริการอยู่ ซึ่งจะเสร็จสิ้นในปีนี้ ส่วนการลงทุนสายสีส้มคาดกว่าจะคืนทุนได้ภายใน 7 ปี หรือราวปี 80
ข่าวแนะนำ