"ชัชชาติ" ยันน้ำไม่ท่วมกทม. มวลน้ำจากเชียงใหม่ไม่กระทบแน่ แต่จับตา 20-21 ต.ค. น้ำทะเลหนุนสูง
หลายพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาเริ่มได้รับผลกระทบ หลังเขื่อนเจ้าพระยา ได้ปรับการระบายขึ้นไปแตะระดับ 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเตรียมรับมวลน้ำเหนือ
สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเเจ้าพระยา กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลาง เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มวลน้ำเหนือเริ่มมีแนวโน้มคงตัว เขื่อนเจ้าพระยาจึงคงการระบายน้ำไว้ที่ระดับ 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อลดผลกระทบท้ายเขื่อน แต่ยังมีแผนจะเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดขึ้นไปที่เกณฑ์ไม่เกิน 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนยกตัวอีกประมาณ 30 เซนติเมตร
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ล่องเรือตรวจการเตรียมความพร้อมป้องกันน้ำท่วม พื้นที่กรุงเทพฯ ในแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมยืนยันว่า ปัจจุบันภาพรวมยังไม่น่าเป็นห่วงมาก แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจยังมีการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ส่วนมวลน้ำจากเชียงใหม่ ไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะช่วงนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝนน้อยลง และบางวันก็ไม่มีฝนแล้ว แต่ที่จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ ช่วงวันที่ 20-21 ตุลาคมนี้ เพราะเป็นช่วงที่น้ำขึ้นและน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งต้องดูอีกครั้งว่ามีการปล่อยน้ำเหนือมามากน้อยแค่ไหน ยืนยันไม่ได้ประมาท มีการเตรียมความพร้อม และเฝ้าระวังตลอดเวลา มีการพร่องน้ำเตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว สำหรับจุดที่เป็นฟันหลอก็จะมีการวางกระสอบทรายเพิ่มเติม แต่ 16 ชุมชน ที่อยู่นอกคันกันน้ำ อาจได้รับผลกระทบบ้าง ซึ่งกรุงเทพมหานคร ก็ได้มีการเตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาแล้ว
ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า สำหรับแผนการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จะคงการระบายน้ำที่ระดับ 2,250 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นท้ายเขื่อน 11 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ปทุมธานี นนทบุรี อุทัยธานี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ โดยได้มีการประสานทุกจังหวัดให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ล่วงหน้าแล้ว ขอให้ประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด
ที่มา: กรุงเทพมหานคร
ข่าวแนะนำ