TNN ทำความรู้จัก BKK FOOD BANK ธนาคารอาหารและมินิมาร์ทใจบุญ ช่วยลดคาร์บอนได้กว่า 1 ล้านกิโลคาร์บอนฯ

TNN

Earth

ทำความรู้จัก BKK FOOD BANK ธนาคารอาหารและมินิมาร์ทใจบุญ ช่วยลดคาร์บอนได้กว่า 1 ล้านกิโลคาร์บอนฯ

ทำความรู้จัก BKK FOOD BANK ธนาคารอาหารและมินิมาร์ทใจบุญ ช่วยลดคาร์บอนได้กว่า 1 ล้านกิโลคาร์บอนฯ

กรุงเทพมหานคร จัดทำโครงการ “BKK Food Bank” หรือ ธนาคารอาหาร สร้างความมั่นคงทางอาหารที่ยั่งยืน ให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง ยังช่วยลดอาหารเหลือทิ้ง และลดคาร์บอนได้กว่า 1 ล้าน กิโลคาร์บอน

กรุงเทพมหานคร จัดทำโครงการ BKK Food Bank” หรือ ธนาคารอาหาร เพื่อเป็นตัวกลางในการรวบรวมอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค จากผู้ที่อยากแบ่งปันและนำไปมอบให้กับผู้ที่ขาดแคลน โดยอาหารที่รวบรวมได้จะจัดไว้เป็นที่เก็บของคล้ายๆ ร้านสะดวกซื้อ และให้กลุ่มผู้เปราะบางที่อยู่ในฐานข้อมูลของแต่ละเขตมาเลือกของที่ต้องการ เช่น ข้าวสาร ไข่ น้ำปลา น้ำตาล เสื้อผ้า และของใช้ในชีวิตประจำวัน โดยนำแต้มที่เขตมอบให้มาแลกของที่ต้องการ 


นอกจากเครื่องอุปโภคบริโภคแล้ว สำนักงานเขตยังมีการรับ - ส่งต่ออาหารส่วนเกิน (Food Surplus) จาก “ผู้บริจาค ตรงสู่ ผู้รับ” ในพื้นที่และให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยจะรับอาหารส่วนเกินจากผู้บริจาค สัปดาห์ละ 3 วัน (ทุกวันอังคาร พุธ พฤหัสบดี) และส่งตรงถึงมือผู้รับ เป็นการร่วมมือกับมูลนิธิ SOS ที่ช่วยประสานกับผู้บริจาคให้ 

ทำความรู้จัก BKK FOOD BANK ธนาคารอาหารและมินิมาร์ทใจบุญ ช่วยลดคาร์บอนได้กว่า 1 ล้านกิโลคาร์บอนฯ

โดยเมื่อวันที่ (9 ก.ย.) ที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไปเปิดธนาคารอาหาร ที่เขตสะพานสูง ทำให้ให้ปัจจุบัน กทม.มีธนาคารอาหาร ครบแล้วทั้งหมด 50 เขต ซึ่งในปัจจุบันกรุงเทพมหานคร ยังมีประชาชนกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้มีรายได้น้อย ตกงาน รวมถึงผู้ประสบภัย ที่ยังขาดแคลนอาหารและเครื่องอุปโภคบริโภคเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็พบว่า 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตเป็นอาหารส่วนเกิน (Food Surplus) และถูกทิ้งเป็นขยะทุกวัน และขยะที่มาจากอาหารคิดเป็นร้อยละ 50 ของขยะทั้งหมด กทม. ดังนั้นการมีธนาคารอาหารนอกจากได้ช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบาง ยังสร้างความมั่นคงทางอาหารที่ยั่งยืน ให้กลุ่มเปราะบางด้วย


ปัจจุบัน “BKK Food Bank” สามารถส่งต่ออาหารบริจาคได้ กว่า 4 แสน 4 หมื่นกิโลกรัม หรือนับเป็นมื้อได้ กว่า 1 ล้าน 8 แสนมื้อ ถึงมือผู้รับซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางแล้ว รวม 5,330 ราย จากข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้กว่า 23,000 ราย กลุ่มที่เข้ามารับบริการมากที่สุด ได้แก่ ผู้สูงอายุร้อยละ 36 ประชาชนผู้มีรายได้น้อยร้อยละ 33 เด็ก ร้อยละ 12 ผู้ด้อยโอกาสร้อยละ 6 คนพิการร้อยละ 5 เด็กในศูนย์เด็กเล็กฯร้อยละ 4 ผู้ป่วยติดเตียงร้อยละ 3 และคนไร้บ้านร้อยละ 1 


ประเภทอาหารที่มีน้ำหนักมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เบเกอรี่ อาหารปรุงสุกพร้อมทาน ข้าว ผักและผลไม้ และน้ำเปล่า คิดเป็นปริมาณคาร์บอนที่ลดได้ กว่า 1 ล้าน 1 แสนกิโลคาร์บอน (CO2e)


ในส่วนขั้นตอนการรับสิ่งของภายในธนาคารอาหาร (BKK Food Bank) สำนักงานเขตฯ จะมีการรับ-ส่งต่ออาหารส่วนเกิน (Food surplus) จาก "ผู้บริจาค สู่ ผู้รับ" กลุ่มเปราะบางที่ได้ลงทะเบียนกับสำนักงานเขตแล้ว สามารถเข้ามาช้อปปิ้งภายใน BKK Food Bank Center ได้สัปดาห์ละ 3 วัน (ทุกวันอังคาร พุธ พฤหัสบดี) โดยแต่ละคนจะมีแต้ม จำนวน 300 แต้ม และต้องใช้ให้หมดภายใน 2 เดือน 


สำหรับใครที่สนใจจะบริจาคของให้กับ BKK Food Bank ไปบริจาคได้สำนักงานเขตทุกเขต หรือที่ศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า 


ภาพ: กรุงเทพมหานคร



ข่าวแนะนำ