TNN "ดอกหงอนนาค" ณ ภูสอยดาว บานฉ่ำรับฤดูฝนกลางสายหมอก

TNN

Earth

"ดอกหงอนนาค" ณ ภูสอยดาว บานฉ่ำรับฤดูฝนกลางสายหมอก

ดอกหงอนนาค ณ ภูสอยดาว บานฉ่ำรับฤดูฝนกลางสายหมอก

“ดอกหงอนนาค” ที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ขณะนี้บาน 100 % แล้ว

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ดินแดนแห่งสายหมอกและยลทุ่งดอกหงอนนาคที่ใหญ่ที่สุดในไทย ชวนนักท่องเที่ยวมายลโฉม “ดอกหงอนนาค” ช่วงนี้กำลังผลิดอกสวยงามเต็มลานสน 100% แล้ว

.

"ดอกหงอนนาค" หรือหญ้าหงอนเงือก หรือน้ำค้างกลางเที่ยง (Murdannia gigantea) เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งที่ออกดอกในฤดูฝน มีหัวหรือเหง้าอยู่ใต้ดิน หน้าแล้งจะแห้งเฉาหายไป แต่เมื่อถึงฤดูฝนก็เริ่มแตกหน่อใหม่ งอกต้นชูดอกกลีบบอบบางอ่อนหวาน ในยามเช้าดอกหงอนนาคจะหุบดอกและจะบานเมื่อมีแสงแดด ส่วนกลางของดอกมักมีหยดน้ำติดอยู่ จึงเป็นที่มาของชื่อ "น้ำค้างกลางเที่ยง"

.

สำหรับความสวยสะพรั่งพราวของทุ่งดอกหงอนนาค นางเอกแห่งภูสอยดาว ปี 2567 ที่กำลังออกดอกเต็มท้องทุ่งป่าสนสามใบ ทั้งสีม่วงอ่อน ขาว และสีชมพู แต่งแต้มความสวยงามอ่อนหวานให้กับผืนป่าสีเขียวสดใสในฤดูฝน บนลานสนอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทุ่งดอกหงอนนาคที่ใหญ่ที่สุด และสวยงามที่สุดในเมืองไทย 

.

การเดินทางขึ้นไปชม “ดอกหงอนนาค” บนลานสนภูสอยดาว นักท่องเที่ยวจะต้องลงทะเบียน ณ ที่ทำการอุทยานฯ ภูสอยดาว จากนั้นเดินเท้าจากตีนภูขึ้นไปยังลานสนระยะทาง 6.5 กิโลเมตร บนความสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะเล ใช้เวลาเดินประมาณ 4-6 ชั่วโมง โดยต้องผ่านเนินต่างๆ ถึง 5 เนิน เป็นเส้นทางขึ้นเขาสูงชันจึงจะถึงลานสน ที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมต้นสนสามใบที่ห่มคลุมไปด้วยสายหมอกและดอกหงอนนาค ที่จะเบ่งบานช่วงปลายเดือนกรกฎาคม-เดือนกันยายน และจะบานสะพรั่งมากสุดในช่วงเดือนสิงหาคม นับเป็นมนต์เสน่ห์สุดขลังของทุ่งดอกไม้บนภูสอยดาวอันสูงชันแห่งนี้ 


นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบแนวผจญภัย กางเต็นท์พักแรมชมธรรมชาติอันสวยงามบนลานสน สามารถไปชมที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว 


ที่มา: ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช


ภาพ: อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

ข่าวแนะนำ