สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ระบุปริมาณน้ำเหนือที่ไหลหลากลงมายังจังหวัดสุโขทัย จะแตะระดับสูงสุดวันนี้ (27 ส.ค.) ส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอศรีสำโรง
สภาพชุมชนในพื้นที่ตำบลวังทอง อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ซึ่งถูกน้ำเหนือหลากเข้าท่วมเป็นคืนที่ 2 แล้ว บ้านบางหลังถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร โดยเฉพาะชุมชนหมู่ 8 บ้านเรือนประชาชน 175 หลังคาเรือน
ถูกน้ำท่วมทุกหลังบางหลังระดับน้ำสูงจนมิดหลังคา ส่วนใหญ่ต้องอพยพขึ้นไปอยู่ชั้น 2 ของตัวบ้าน ส่วนบ้านที่มีแต่ผู้สูงอายุ และเด็กต้องรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ และต้องอยู่ท่ามกลางความมืดเนื่องจากถูกตัดกระแสไฟฟ้า ส่วนระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกระแสน้ำยังคงไหลเชี่ยว
ส่วนตำบลวังใหญ่ ถนนบางช่วงก็ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนพัง เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถยกสูงเข้าไปให้การช่วยเหลือ ขณะที่ชาวบ้านบางรายต้อง อพยพออกมานอนริมถนนนอกหมู่บ้าน เนื่องจากบ้านถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้แล้ว และบางคนก็อยู่ในภาวะเครียดเพราะระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นตลอดทั้งวัน เพราะไม่เพียงแค่บ้านที่เสียหาย แต่พืชผลทางการเกษตรไร่นาก็ถูกน้ำท่วมจนหมด
มวลน้ำจากแม่น้ำยมที่เอ่อล้นเข้าท่วม 4 ตำบล ของอำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ได้แก่ ตำบลวังใหญ่ ตำบลคลองตาล ตำบลท่าทอง และตำบลวังทอง ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง หลังจากมวลน้ำ ได้กัดเซาะแนวคันดินป้องกันตลิ่งจนพังทลายลงหลายจุด บางหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูงถึง 2 เมตร ประชาชนต้องใช้เรือในการเดินทางเข้า-ออกจากหมู่บ้าน และต้องถูกตัดน้ำตัดไฟเพื่อความปลอดภัย และต้องย้ายรถไถ เครื่องมือเกษตร รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมทั้งสัตว์เลี้ยงมาไว้บนถนนแทน
นายสุรินทร์ ชาวบ้านหมู่ 8 ตำบลวังทอง บอกว่า คันกั้นน้ำได้พังทลายลง ทำให้มวลน้ำจำนวนมากไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน ตั้งแต่ช่วงวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัวขนย้ายสิ่งของหนีน้ำไม่ทัน เสียหายจำนวนมาก จากนั้นอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็เข้าท่วมหมู่ 7 และหมู่ 4 ที่อยู่ติดกัน รวมหลายร้อยหลังคาเรือน รวมทั้งนาข้าวที่กำลังจะได้เก็บเกี่ยวในอีกไม่กี่วัน ก็ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด
ด้าน นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า วันนี้ (27 ส.ค.) ปริมาณน้ำเหนือที่ไหลหลากลงมายังจังหวัดสุโขทัยจะมากที่สุด โดยเตรียมบริหารจัดการน้ำหน้าประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ อำเภอศรีสัชนาลัย ระบายไปทางคลองยมน่านเป็นหลัก อีกส่วนจะระบายเข้าไปยังคลองในแม่น้ำยมสายเก่า
โดยขณะนี้ตัวเมืองสุโขทัย สามารถรองรับการระบายได้ที่ระดับ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงอาจทำให้มีน้ำล้นพนังกั้นน้ำบ้างเล็กน้อย ซึ่งประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ในตัวเมืองสุโขทัย ได้ช่วยกันเสริมกระสอบทรายเตรียมรับมือแล้ว คาดว่าจะทำให้เกิดน้ำล้นในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ก็จะมีเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งเตรียมไว้คอยสูบนำออกไป เพื่อรักษาพื้นที่เศรษฐกิจของตัวเมืองสุโขทัย
นายสุรสีห์ บอกอีกว่า หลังจากนี้มวลน้ำเหลือ จะไหลลงไปต่อยังจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร และนครสวรรค์ ก็จะเร่งระบายน้ำลงไปยังแม่น้ำน่านเพื่อให้น้ำในทุ่งน้อยลง เพราะมีการประเมินว่าในเดือนกันยายนนี้ ยังมีแนวโน้มปริมาณฝนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่ามวลน้ำจะมารวมกันที่จังหวัดนครสวรรค์ ประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้การระบายน้ำเจ้าพระยาจะอยู่ที่อัตรา 700-1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบเหมือนปี 2554 เพราะปี 2554 น้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่ สูงถึง 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ที่มา: TNN