TNN “ระเบิดฝน” rain bomb คืออะไร? อ.ธรณ์เผยโลกร้อนกระตุ้นให้เกิดมากขึ้น

TNN

Earth

“ระเบิดฝน” rain bomb คืออะไร? อ.ธรณ์เผยโลกร้อนกระตุ้นให้เกิดมากขึ้น

“ระเบิดฝน” rain bomb คืออะไร? อ.ธรณ์เผยโลกร้อนกระตุ้นให้เกิดมากขึ้น

“ระเบิดฝน” rain bomb คืออะไร? อ.ธรณ์เผยโลกร้อนกระตุ้นให้เกิดมากขึ้น เตรียมรับมือสึนามิจากท้องฟ้า

ศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ผ่าน Facebook : Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า ผลพวงจากภาวะโลกร้อน จะส่งผลให้เกิด “ระเบิดฝน” rain bomb มากขึ้น


“ระเบิดฝน” rain bomb คืออะไร? 


rain bomb   เป็นศัพท์ใหม่ ไม่ถูกใช้เป็นทางการ แต่ความหมายทั่วไปคือฝนตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา ปริมาณน้ำฝนในช่วงเวลาสั้นๆ ทะลุขีดจำกัด ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากเป็นศัพท์ใหม่ จึงไม่มีการฟันธงว่านี่คือปรากฏการณ์ “ระเบิดฝน” หรือไม่ ? แต่ว่าง่ายๆ คือตกเหมือนฟ้ารั่ว 


rain bomb  ก่อให้เกิดน้ำจากฟ้าถล่มลงมาอย่างรุนแรงในช่วงแสนสั้น การรับมือน้ำท่วมแบบดั้งเดิมจึงมีปัญหา ผลกระทบจึงมาสู่ชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนการทำมาหากินของพวกเรา ตัวอย่างมีให้เห็นทั่วไป เฉพาะช่วงนี้ก็มีทั้งน้ำท่วมภูเก็ต ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ ฯลฯ ภาพรถที่ลอยไปตามน้ำไหลหลากดูน่ากลัว จนบางคนเปรียบเทียบว่า "เหมือนสึนามิจากฟ้า"


นักวิทยาศาสตร์บอกว่า rain bomb จะเกิดพร้อมพายุฝนฟ้าคะนอง จะเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ในยุคโลกเดือด เพราะมหาสมุทรร้อน น้ำระเหยมากขึ้น อากาศร้อนเพิ่มขึ้น เมฆมีน้ำอยู่มากมายพร้อมทะลักทลายจากบนฟ้าในช่วงสั้นๆ


หากตกลงบนเขาหรือในป่า อาจเกิดน้ำไหลหลากฉับพลันลงมาในเมืองตามถนนหนทางที่กลายเป็นทางน้ำ รวมถึงโคลนถล่มตามมาในพื้นที่ไม่เคยเกิด เช่น หายนะที่ลิเบีย


หากตกลงในเมืองที่ราบแบบกรุงเทพ น้ำท่วมเร็วมาก น้ำเข้าบ้านโดยเฉพาะพื้นที่เป็นแอ่ง น้ำท่วมรถติดบนถนน ทำทรัพย์สินเสียหาย คำว่า “บอมบ์”หมายถึงเกิดฉับพลันแล้วหายไป น้ำท่วมแบบนี้จึงไม่นาน แต่ความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว


การคาดการณ์ล่วงหน้าทำแทบไม่ได้ในระยะยาว ปรกติก็เป็นการทำนายทั่วไปในพื้นที่กว้าง แต่ไม่สามารถบอกได้ว่า rain bomb กำลังมา ให้เอารถขึ้นที่สูง ป้องกันน้ำเข้าบ้านทุกวิถีทาง ฯลฯ เน้นย้ำว่าเป็นคำทั่วไป ไม่ใช่ศัพท์ทางวิชาการ


ศ.ดร.ธรณ์ ระบุถึงวิธีการรับมือว่า เราจึงต้องระวังรักษาตัวเองและทรัพย์สินให้มากที่สุด เช่น ศึกษารอบบ้านให้ดี ดูเส้นทางน้ำหลาก ดูพื้นที่ลุ่ม ดูปัจจัยเสี่ยง ฯลฯ ซึ่งมองแล้วเป็นเรื่องยาก แต่โลกยุคนี้อยู่ไม่ง่ายแน่นอน และจะยากขึ้นเรื่อยๆ จะไปหวังพึ่งใครก็ไม่ได้มาก เราต้องช่วยตัวเองให้ถึงที่สุด


สภาพอากาศสุดขีดแบบนี้จึงเป็นความเสี่ยงอันดับ 1 ของโลกในยุค 10 ปีต่อจากนี้ไป ตามที่ world economic forum ระบุไว้ "ลานินญา" กำลังมา rain bomb อาจแฝงมากับสภาพฝนตกฟ้าคะนอง เพื่อนธรณ์เตรียมตัวรับมือกันบ้างหรือยัง


ภาพจาก: AFP 

ข่าวแนะนำ