TNN online รับมือสภาวะเอลนีโญ เตรียมแผนสำรองน้ำ-ลดผลกระทบพื้นที่เสี่ยงขาดน้ำ

TNN ONLINE

Earth

รับมือสภาวะเอลนีโญ เตรียมแผนสำรองน้ำ-ลดผลกระทบพื้นที่เสี่ยงขาดน้ำ

รับมือสภาวะเอลนีโญ เตรียมแผนสำรองน้ำ-ลดผลกระทบพื้นที่เสี่ยงขาดน้ำ

กอนช.ถกหน่วยน้ำวางแผนบริหารจัดการน้ำยาวถึง ปี 67 เตรียมแผนสำรองน้ำ ลดผลกระทบพื้นที่เสี่ยงขาดน้ำ รับฝนน้อยจากเอลนีโญ

กอนช.ถกหน่วยน้ำวางแผนบริหารจัดการน้ำยาวถึง ปี 67 เตรียมแผนสำรองน้ำ ลดผลกระทบพื้นที่เสี่ยงขาดน้ำ รับฝนน้อยจากเอลนีโญ


ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมการประเมินสถานการณ์น้ำ ว่า ในระยะนี้ กอนช. จะมีการประชุมเพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบของสภาวะเอลนีโญ ซึ่งมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นยาวไปถึงปีหน้า โดยคาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำในปี 66 และ 67 จะคล้ายกับสถานการณ์น้ำเมื่อปี 62 ซึ่งเกิดสภาวะเอลนีโญต่อเนื่องจนถึงปี 63 เช่นเดียวกัน 

ที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ฯลฯ จัดทำข้อมูลเพิ่มเติมในการบริหารจัดการน้ำเขื่อนต่างๆ รวมถึงแหล่งน้ำสำรองในการให้ความช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยใช้ข้อมูลในปี 63 เพื่อประเมินปริมาณน้ำต้นทุน ณ วันที่ 1 พ.ย. 67 

สำหรับใช้ในการบริหารจัดการน้ำระยะยาว 2 ปี โดยมุ่งกักเก็บน้ำต้นทุนส่งต่อไปยังปี 67 ให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดภัยแล้งหากยังคงมีปริมาณฝนน้อยต่อเนื่องถึงปีหน้า เนื่องจากปัจจุบันคาดว่าเมื่อสิ้นสุดฤดูฝนปีนี้ ปริมาณน้ำต้นทุน ณ วันที่ 1 พ.ย. 66 จะมีปริมาณเพียง 60-70% เท่านั้น

เนื่องจากมีปริมาณฝนน้อย ส่งผลให้ขณะนี้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ น้อยมาก เช่น เขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำน้อย ปัจจุบันจึงต้องใช้น้ำจากเขื่อนภูมิพลในการช่วยหล่อเลี้ยงเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีน้ำไหลเข้าเพิ่ม ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลจึงพร่องลงไปเรื่อย ๆ 

ดังนั้น ในปีนี้จึงต้องมีการเน้นย้ำในเรื่องการรณรงค์ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด สร้างความรู้ความเข้าใจให้เกษตรกรได้เข้าใจสถานการณ์น้ำทั้งในปีนี้และปีหน้า โดยส่งเสริมให้มีการเพาะปลูกเพียงหนึ่งรอบเท่านั้น เพื่อสงวนน้ำไว้สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ในฤดูแล้งที่จะมาถึง โดยให้ความสำคัญกับน้ำอุปโภคบริโภคเป็นอันดับแรก รวมถึงป้องกันการยืนต้นตายของไม้ผล ไปจนถึงการใช้น้ำในภาคอุตสาหกรรมและรักษาระบบนิเวศ โดยขอให้เกษตรกรติดตามข่าวสารจากภาครัฐอย่างใกล้ชิดเพื่อลดความเสี่ยงของการเพาะปลูกจากฝนทิ้งช่วง 

ทั้งนี้ กรมชลประทานยังได้มีการส่งเสริมการปลูกข้าวเบาที่มีอายุสั้นและเก็บเกี่ยวได้เร็ว เพื่อให้ได้ผลผลิตที่สมบูรณ์ที่สุด รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนพัฒนาแหล่งน้ำของตนเองเพื่อรองรับหากเกิดสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงด้วย 

การบริหารจัดการน้ำจะเป็นไปอย่างรอบคอบ คำนึงถึงผลกระทบระยะยาวเพื่อสำรองน้ำไว้จนถึงปี 67 ให้ได้มากที่สุด เพื่อบริหารความเสี่ยงหากสภาวะเอลนีโญเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 68 ด้วย



ข้อมูลจาก กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ

ภาพจาก TNN ONLINE




ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง