พายุฤดูร้อนถล่มไทย! อุตุฯพยากรณ์อากาศกางแผนที่เสี่ยงภัยระดับสีแดง 9 จังหวัด

พายุฤดูร้อนถล่มไทย กรมอุตุฯพยากรณ์อากาศวันนี้ กางแผนที่จังหวัดเสี่ยงภัยระดับสีเหลือง-แดง "ฝนตกหนักถึงหนักมาก" ถึง 06.00 น.พรุ่งนี้

พยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศทั่วไป ในช่วงวันที่ 12 – 14 มี.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ 

ส่วนในช่วงวันที่ 15 - 18 มี.ค. 66 บริเวณกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ส่งผลทำให้ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน 

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

แผ่นที่เสี่ยงภัยพายุฤดูร้อนและลมกระโชกแรง

ทั้งนี้ กรมอุตุฯ ได้พยากรณ์อากาศเปิดแผนที่แสดงพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่ 06.00 น. วันนี้ถึงเวลา 06.00 น. ของวันพรุ่งนี้โดยมีรายละเอียดดังนี้

-พื้นที่เสี่ยงภัยปานกลาง ระดับ (สีเหลือง) ได้แก่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด อยุธยา ปทุมธานี นครปฐม นนทบุรี กรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม

-พื้นที่เสี่ยงภัยสูงสุด ระดับ (สีแดง) ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง  แพร่ ตาก

ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 12 – 14 มี.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก รวมถึงอันตรายจากฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

ที่มา กรมอุตุฯ

ภาพจาก กรมอุตุฯ/AFP