17 จังหวัดภาคเหนืออากาศแห้ง พบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นกว่า 100 จุด
หลังเข้าสู่ฤดูหนาวสภาพอากาศทางภาคเหนือเริ่มแห้งเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าและส่งผลต่อคุณภาพอากาศโดยรวม จากการตรวจสอบพบว่ามีจุดความร้อนบริเวณพื้นที่ภาคเหนือถึง 136 จุด เป็นพื้นที่ทางการเกษตรถึง 94 จุด คาดว่าเป็นการเผาเตรียมหน้าดินเพื่อทำการเกษตร
ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 หรือ ศอ.ปกป.ภาค 3 รายงานสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองพบ 17 จังหวัดภาคเหนือ ตรวจพบจุดความร้อนจำนวน 136 จุด โดยจุดความร้อนมากที่สุดอยู่ที่ จ.เชียงรายพบ 22 จุด จ.พิจิตรพบ 18 จุด จ.นครสวรรค์พบ 15 จุด จ.พิษณุโลกพบ 14 จุด โดยจุดความร้อนที่พบเป็นพื้นที่ทางการเกษตรถึง 94 จุด บ่งชี้ว่าเป็นการเผาพื้นที่ทางการเกษตร ส่วนการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากกรม
ส่วนคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ จุดตรวจวัดจำนวน 6 จุด ช่วงเวลา 08.00 น. จุดแรก ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง, เชียงใหม่ พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่า 37 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วน PM 2.5 ไม่มีข้อมูล ,จุดที่ 2 กลางเมืองเชียงใหม่ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ต.ศรีภูมิ อ.เมือง, เชียงใหม่ พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 21 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,จุดที่ 3 บนดอยสุเทพ ต.สุเทพ อ.เมือง, เชียงใหม่ พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 11 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,จุดที่ 4 ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม, เชียงใหม่ พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 14 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ,จุดที่ 5 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว, เชียงใหม่ พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 17 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และจุดที่ 6 ต.บ้านตาล อ.ฮอด, เชียงใหม่
