ฤดูเฮอริเคนแอตแลนติกเริ่มแล้ว คาดปีนี้ถล่มสหรัฐฯ 4-6 ลูก
“ฤดูเฮอริเคนทางฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกอยู่ในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน ปีนี้คาดว่าจะมีการก่อตัวของพายุทางฝั่งแอตแลนติกประมาณ 16-20 ลูกและคาดว่าขึ้นฝั่งสหรัฐประมาณ 4-6 ลูก”
ฤดูพายุเฮอริเคนทางฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งช่วงเวลานี้จะพบการก่อตัวของพายุค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในปีนี้องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติหรือโนอา คาดการณ์ว่าจะพบการก่อตัวของพายุมากกว่าค่าเฉลี่ย เนื่องจากอุณหภูมิของน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งบริเวณอ่าวเม็กซิโก ทะเลแคริบเบียน รวมไปถึงชายฝั่งด้านตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้พายุก่อตัวได้เร็วขึ้นและมีความรุนแรงมากขึ้น โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาคือปีพ.ศ. 2563 และ ปี 2564 นั้นนับว่ามีพายุก่อตัวขึ้นมากกว่าค่าปกติเช่นกัน โดยในปีพ.ศ. 2563 นั้น ถือว่าเป็นปีที่พบการก่อตัวของพายุมากที่สุดในประวัติการณ์นับตั้งแต่มีการบันทึกมาเลยทีเดียว ในปีนั้นพายุก่อตัวในมหาสมุทรแอตแลนติกมากถึง 31 ลูก โดยใน 31 ลูกนั้นทวีกำลังไปถึงขั้นพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ถึง 6 ลูกทีเดียว ส่วนปีที่แล้ว คือในปีพ.ศ. 2564 พบการก่อตัวของพายุทั้งหมด 21 ลูก ในจำนวน 21 ลูกนี้ ทวีกำลังเป็นพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ 4 ลูก ส่วนในปีนี้คาดว่าจะพบการก่อตัวของพายุทางฝั่งแอตแลนติกประมาณ 16-20 ลูก ในจำนวนนี้คาดว่าจะทวีกำลังเป็นพายุเฮอริเคนประมาณ 6-8 ลูก และจะทวีกำลังเป็นพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ประมาณ 3-5 ลูก รวมถึงคาดการณ์ว่าปีนี้จะขึ้นฝั่งสหรัฐตรงๆประมาณ 4-6 ลูกทีเดียว ซึ่งจากการคาดการณ์นั้นนับว่าปีนี้จะพบการก่อตัวของพายุมากกว่าค่าปกติเช่นเดียวกับ 2 ปีที่แล้ว เพราะจากค่าเฉลี่ยนั้น จะพบการก่อตัวของพายุประมาณ 14 ลูกต่อปีเท่านั้น และปัจจัยสำคัญที่ทำให้ในระยะหลังๆ พายุทั่วโลกก่อตัวได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น ก็มาจากปัญหาภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศนั่นเอง