โลกร้อน ทำลาย "ป่าฝนแอมะซอน" เสี่ยงเป็นทุ่งหญ้าสะวันนาในอนาคต

มีผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสาร Nature Climate Change ชี้ว่า ป่าฝนแอมะซอน ป่าฝนอันกว้างใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 9 ประเทศในละตินอเมริกา ใกล้ถึงจุดวิกฤติแล้ว จากป่าฝน อาจกลายเป็น ทุ่งหญ้าสะวันนาแทนในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า เนื่องจากภาวะโลกร้อน สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงรวมถึงการตัดไม้ทำลายป่า สำหรับป่าฝนแอมะซอน ได้รับการขนานนามว่า เป็นปอดของโลก เพราะสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 2 พันล้านตันต่อปี และยังช่วยผลิตออกซิเจนกลับสู่โลกกว่า 20% แต่จากข้อมูลดาวเทียมของรัฐบาลบราซิลพบว่า เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีการตัดไม้ทำลายป่าสูงกว่าเดือนมกราคมปีที่แล้วถึง 5 เท่า การตัดไม้ทำลายป่าเมื่อเดือนมกราคมนั้น ครอบคลุมพื้นที่กว่า 430 ตารางกิโลเมตรทำให้เกิดความกังวลกันว่า ยิ่งมีการตัดไม้ทำลายป่ามากเท่าไร ป่าจะยิ่งดูดซับมลพิษน้อยลงเท่านั้น จากรายงานพบว่ากว่า 75% ของป่าฝน ฟื้นตัวจากภาวะภัยแล้งและไฟป่าได้ยากขึ้น ป่าเสียความสมดุล และความยืดหยุ่นในการฟื้นฟูตัวเอง ส่งผลให้กักเก็บคาร์บอนได้น้อยลง พื้นที่เหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ใกล้เขตทำการเกษตร เขตชุมชนและเมือง และเขตที่ที่มีการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามาจากฝีมือมนุษย์ ตอนนี้ก็มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นชี้ว่า ป่าฝนแอมะซอนสามารถกลายเป็นทุ่งหญ้าสะวันนาได้ หากไม่เร่งแก้ไข หรือฟื้นฟู สิ่งที่นักวิทยาศาตร์ออกมาเตือนคือ งดการทำกิจกรรมใดใดที่ทำลายป่า ควรให้เวลาธรรมชาติในการฟื้นฟู ลดกิจกรรมต่างๆที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนเพื่อป่าฝนแอมะซอนจะได้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม