TNN “ลุงฆ่าแมว” เปิดข้อกฏหมาย ตำรวจแจ้งความผิดกี่ข้อหา

TNN

อาชญากรรม

“ลุงฆ่าแมว” เปิดข้อกฏหมาย ตำรวจแจ้งความผิดกี่ข้อหา

“ลุงฆ่าแมว” เปิดข้อกฏหมาย ตำรวจแจ้งความผิดกี่ข้อหา

“ลุงฆ่าแมว” เข้าพบตำรวจสน.ทุ่งสองห้องแล้ว เปิดข้อกฏหมายกรณีนี้ ตำรวจแจ้งความผิดกี่ข้อหา

จากกรณีในโลกโซเชียลได้มีการเผยแพร่คลิปชายสูงอายุก่อเหตุฆ่าแมวโดนการจับขาฟาดกับพื้นและเสาจนเสียชีวิต จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กันอย่างหนัก 

ล่าสุดลุงฆ่าแมวผู้ก่อเหตุได้ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง เพื่อ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา หลัง เจ้าของแมวได้ เข้าแจ้งความพร้อมกับ ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ และทารุณกรรมสัตว์ พร้อมเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 50,000 ค่าและแมว 3,000 รวม 53,000 บาท 

โดยลุงฆ่าแมวผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาถึงบริเวณหน้า สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนจะเดินเข้าพบพนักงานสอบสวนซึ่งระหว่างนั้น ผู้สื่อข่าวพยามสอบถามลุงเทียนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ลุงเทียนตอบเพียงสั้นสั้นว่า ไม่มีความรู้สึกกังวลที่ถูกตำรวจเรียกมาวันนี้ รู้สึกว่าตนเองเป็นคนดังที่มีผู้สื่อข่าวมาติดตามทำข่าวจำนวนมาก พร้อมระบุว่าไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่ตนเองทำ

ต่อมาภายหลังการสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหานานกว่า 1.30 ชั่วโมง ลุงฆ่าแมวได้เดินออกมาพร้อมนำหนังสื่อพิมพ์ขึ้นมาบังหน้าและบอกไม่ให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพ หากใครจะสัมภาษณ์ให้ประมูลราคาค่าตัวในการสัมภาษณ์มาจึงจะยอมให้ข่าว ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจับใจความได้ว่รู้สึกเฉยๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ตอนนี้เดี๋ยวขอไปสู้คดีก่อน ส่วนเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายลุงปฏิเสธที่จะตอบ  

ทางด้าน ร.ต.อ.เนติ แก้วจงประสิทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง เปิดเผยว่า วันนี้ผู้ถูกกล่าวหาได้เข้าสอบปากคำ รับทราบข้อกล่าวหาจำนวน 2 ข้อหาคือทารุณกรรมสัตว์ โทษจำคุก 2 ปีปรับไม่เกิน 4 หมื่น และทำให้เสียทรัพย์ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่น พร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนจะปล่อยตัวผู้ต้องหากลับไป เนื่องจากลุงฆ่าแมวดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง   

โดยในวันที่14ธ.ค.ได้มีการนัดหมายกับผู้ต้องหาเพื่อส่งฟ้องที่ศาลแขวงดอนเมือง เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง พร้อมกับอ้างว่าตนเองเป็นเจ้าของบ้าน แมวมาบุกรุกที่บ้าน ตนเองมีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้น 

ข้อมูลจาก : TNN ONLINE 

ภาพจาก  :  TNN ONLINE 

ข่าวแนะนำ