อนามัยโพล เผย คนไทย 82% กังวลต่อการระบาดโควิดช่วงเทศกาลปีใหม่
อนามัยโพล เผยผลสำรวจประชาชนกว่าร้อยละ 82 กังวลต่อการระบาดโควิดในช่วงปีใหม่ โดยมองว่าเป็นช่วงที่มีการจัดกิจกรรมสังสรรค์เยอะ รวมถึงกังวลต่อการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอมิครอน
วันนี้ (21 ธ.ค.64) ที่ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ระบุถึงมาตรการความปลอดภัยต้อนรับปีใหม่ปลอดโควิด ว่า จากผลการสำรขวจอนามัยโพล ความกังวลต่อการระบาดโควิดในช่วงเทศกาลปีใหม่ พบว่า กว่าร้อยละ 82 กังวล โดยมีเพียงร้อยละ 18 ที่ไม่กังวล
เหตุผลสำหรับการกังวล อันดับหนึ่ง ร้อยละ 75.68 มองว่าเป็นช่วงที่มีการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มต่างๆ ค่อนข้างเยอะ เช่น สังสรรค์ หรือท่องเที่ยว ร้อยละ 70.37 กังวล กลัวว่าจะมีการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในประเทศ ร้อยละ 47.07 จํานวนผู้ติดเชื้อในประเทศยังคงสูงอยู่ ร้อยละ 40.83 มองว่า สถานประกอบการไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน ร้อยละ 32.10 กลัวว่าจะมีการลักลอบเปิดให้บริการของสถานบันเทิง
ส่วนในกลุ่มที่ไม่กังวล มองว่า ร้อยละ 53 อยากใช้ชีวิตตามปกติและต้องอยู่ร่วมกับโรคโควิดให้ได้ โดยร้อยละ 45.21 มั่นใจในมาตรการที่บังคับใช้
สำหรับกิจกรรมที่ประชาชนคิดว่าจะทำให้เกิดการระบาดของโควิด-19 อันดับหนึ่ง ร้อยละ 67.29 มองว่า มาจากการรวมกลุ่มของสถานประกอบการต่างๆ ร้อยละ 67.29 การเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวด้วยรถส่วนตัว ร้อยละ 58.09 การเดินทางกลับภูมิลำเนาท่องเที่ยวด้วยขนส่งสาธารณะ ร้อยละ 56 .57 การเดินทางเข้าประเทศ ร้อยละ 51.45 การลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย
5 อันดับแรกสำหรับสถานที่ที่ประชาชนคิดว่าจะทำให้เกิดการระบาดโควิด อันดับ 1 คือ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อันดับ 2 สถานท่องเที่ยว อันดับ 3 ตลาด อันดับ 4 ห้างสรรพสินค้า อันดับ 5 ขนส่งสาธารณะ โดยได้มีการสอบถามเพิ่มเติมถึงแผนสังสรรค์หรือร่วมงานปีใหม่ พบว่า เกือบร้อยละ 85 ประชาชนมีแผนจะฉลองปีใหม่ที่บ้าน
ความคิดเห็นของประชาชนกับมาตรการที่ต้องปฏิบัติเพิ่มเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในช่วงปีใหม่ ร้อยละ 61.10 มองว่าควรคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและคุมเข้มนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการนำเชื้อสายพันธุ์ใหม่เข้าประเทศ ร้อยละ 60 เจ้าหน้าที่ควรสุ่มตรวจสถานประกอบการต่างๆ สถานที่จัดงาน ร้อยละ 57.97 มองว่า ควรคุมเข้มและป้องกันการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายตามแนวชายแดน
กรมอนามัย ได้แนะนำหากมีการจัดงานสังสรรค์ที่บ้าน ควรเลือกจัดในพื้นที่เปิดโล่งอากาศถ่ายเทสะดวก ลดการสัมผัสโอบกอด กินอาหารปรุงสุก และมีภาชนะสำหรับชิ้นส่วนตัวควรมีระยะห่างหากมีกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วยเสี่ยง ควรสวมหน้ากากอนามัยแมสจัดงานในบ้าน
หากอยากไปร่วมงานนอกสถานที่ควรเลือกสถานที่ที่ได้รับเครื่องหมาย โควิดฟรีเซ็ตติ้ง หรือ SHA Plus ควรมองดูสถานที่เปิดโล่งอากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงงานที่มีคนจำนวนมากที่ทำให้เกิดความแออัด ที่สำคัญ คือ ควรปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข ขอความร่วมมือเลี่ยงการรวมกลุ่มดื่มสุรา
ส่วนกรณีที่มีการจัดงานคอนเสิร์ตมีประชาชนจำนวนมากและมีการหละหลวมการใส่หน้ากากอนามัย เบื้องต้นการจัดงานจะต้องมีการขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและต้องผู้จัดงานจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
ทั้งนี้ หากพบว่าการจัดงานมีการละเลยมาตรการสาธารณสุขเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด อธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า การจัดงานการร่วมงานจะต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข และผู้เข้าร่วมงานจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิดต้องมีการประเมินความเสี่ยงในการจัดงานและผู้เข้าร่วมงาน
ผู้จัดงาน ประชาชนที่ร่วมงาน ต้องช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด เพื่อนำไปสู่การจัดงานต่างๆ อย่างปลอดภัย
กรณีหลังกลับมาปฏิบัติงานในช่วงเทศกาลปีใหม่ ต้องมีการประเมินความเสี่ยงหรือตรวจเชื้อหรือไม่ อธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า เบื้องต้นกระทรวงสาธารณสุขได้มีการกำหนดมาตรการสำคัญครบถ้วนแล้ว ซึ่งพนักงานในองค์กรต้องได้รับวัคซีนโควิด-19 พนักงานต้องมีการประเมินตนเองว่าในช่วงที่ไปเที่ยวปีใหม่หรือกลับภูมิลำเนามีความเสี่ยงหรือไม่ หากพบว่ามีความเสี่ยงจะต้องพิจารณาดำเนินการแต่ละกรณี เช่น การตรวจหาเชื้อ หรือสังเกตอาการ โดยแต่ละองค์กรสามารถที่จะปฏิบัติตามแนวทางความเหมาะสมขององค์กรนั้นๆ ได้
ส่วนการแพร่ระบาดโอมิครอน ตอนนี้ยังไม่มีแนวทางที่ออกมาจากทางรัฐบาลว่าให้ชะลอการจัดงานปีใหม่หรือยุติ ทั้งนี้ การจัดงานต่างๆหากไม่มีมาตรการรองรัง ย่อมมีความเสี่ยงอยู่แล้ว เบื้องต้นการจัดงานทางกระทรวงสาธารณสุข มีมาตรการสาธารณสุขรองรับที่ออกเป็นแนวทางครบถ้วน ซึ่งทุกคนต้องร่วมปฏิบัติอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะมีการประเมินความเสี่ยงสถานการณ์การระบาดอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะประกาศแนวทางออกมา.
ภาพจาก AFP