โคราชอ่วมโควิดเฝ้าระวัง 7 คลัสเตอร์ 32 อำเภอคุมเข้มกันระบาดวงกว้าง
เฝ้าระวัง 7 คลัสเตอร์โคราช ระบาดไม่หยุดสั่ง 32 อำเภอจับตาชุมชนและกลุ่มเพื่อนร่วมกิจกรรมสังสรรค์ สกัดเชื้อไม่ให้ระบาดเป็นวงกว้าง
วันนี้ ( 6 พ.ย. 64 )ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานที่ผานมาที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด19 รายใหม่พุ่งขึ้นมา 102 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อกันเองในจังหวัด 94 ราย และติดเชื้อมาจากนอกจังหวัด 8 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสมล่าสุดอยู่ที่ 30,484 ราย โดยรักษาหายแล้ว 28,461 ราย ยังรักษาอยู่ 1,791ราย มีเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิง อายุ 57 ปี ชาว ต.หนองกระทุ่ม อ.เมืองนครราชสีมา มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยโควิด 19 ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 232 ราย
ทั้งนี้ ทางจังหวัดฯ ได้เร่งฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อลดอัตราการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด 19 ลงให้ได้ โดยกลุ่มเป้าหมายอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 2,152,381 ราย สามารถฉีดเข็ม 1 ไปได้แล้ว 1,357,991 ราย หรือคิดเป็น 63.09 %,ฉีดเข็ม 2 ได้ 1,111,060 ราย หรือ 51.62 % และเข็ม 3 ฉีดได้ 97,224 ราย หรือ 4.52 % รวมฉีดไปแล้ว 2,566,275 โดส ส่วนกลุ่มเป้าหมายอายุ 12-18 ปี จำนวน 147,724 ราย สามารถฉีดเข็ม 1 ได้แล้ว 120,585 ราย หรือ 81.63 % ,เข็ม 2 ฉีดได้ 62,109 ราย หรือ 42.04 % รวมฉีดวัคซีนไปแล้ว 182,694 โดส อย่างไรก็ตาม มี 7 คลัสเตอร์ที่ต้องจับตาและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากคลัสเตอร์เหล่านี้ ยังพบการระบาดทำให้ผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก ซึ่งได้แก่
1.คลัสเตอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา โดยก่อนควบคุมโรค พบตำรวจติดเชื้อ 11 รายระหว่างวันที่ 18-25 ตุลาคม 2564 และครอบครัวตำรวจติดเชื้อ 14 ราย จากนั้นวันที่ 26 ตุลาคม 2564 เป็นต้นมา สสจ.ได้เข้าดำเนินการควบคุมโรค ด้วยการตรวจหาเชื้อเชิงรุกผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 127 ราย ซึ่งเป็นตำรวจ 71 ราย และนักเรียนนายสิบตำรวจ 56 ราย โดยพบตำรวจติดเชื้อ 7 ราย ,นักเรียนนายสิบตำรวจ ติดเชื้อ 4 ราย และยังมีครอบครัว-เพื่อน-ญาติของตำรวจ ติดเชื้ออีก 7 ราย ซึ่งต่อมาวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ได้ค้นหาเชิงรุกเพิ่มเติม พบตำรวจที่มีประวัติเข้าพื้นที่ห้องขัง ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย และนักเรียนนายสิบตำรวจ ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย รวมคลัสเตอร์นี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักเรียนนายสิบตำรวจ ติดเชื้อแล้ว 24 ราย กับมีครอบครัวหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ติดเชื้อ 21 ราย
2.คลัสเตอร์แคมป์ก่อสร้างถนน บริษัทวิชญ์โยธาสร้างถนน ม.1 ต.หนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ เป็นคลัสเตอร์ ที่มีความเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ สภ.เมืองนครราชสีมา เพราะผู้ป่วยรายแรก เป็นแรงงานผิดกฏหมายชาวกัมพูชา เคยถูกจับกุมไว้ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 มีคนงานทั้ง 40 คน เป็นแรงงานไทย 3 คน และแรงงานต่างชาติ 37 คน ซึ่งยืนยันพบเชื้อเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 และได้แพร่เชื้อให้เพื่อนแรงงานต่างชาติอีก 3 ราย แพร่เชื้อไปสู่ครอบครัวที่อยู่ในแคมป์คนงาน อีก 2 ราย ต่อมาได้ตรวจเชิงรุกผู้สัมผัสเสี่ยงสูง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก เป็นแรงงานต่างชาติหญิง 2 ราย และลูกแรงงาน 1 ราย รวมคลัสเตอร์นี้มีผู้ติดเชื้อเป็นแรงงานต่างชาติชาวกัมพูชาทั้งหมด 9 รายแล้ว
3.คลัสเตอร์โรงงานศรีไทย ซุปเปอร์แวร์ อ.เมืองนครราชสีมา พบการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงาน โดยแรงงานต่างชาติที่มีอยู่ทั้งหมด 250 คน พบติดเชื้อ 146 ราย และแพร่เชื้อทำให้ลูกของแรงงานต่างชาติ ติดเชื้อไปด้วย 3 ราย ทางโรงงานได้ทำ Bubble and Seal ตอนนี้ยังไม่มีแรงงานต่างชาติติดเชื้อเพิ่ม ในขณะที่แรงงานชาวไทย ที่มีอยู่ทั้งหมด 690 คน พบติดเชื้อ 29 ราย และล่าสุด เชื้อยังระบาด พบแรงงานไทยติดเชื้อเพิ่มอีก 27 ราย ยังมีอีก 8 รายที่ผลตรวจ ATK เป็นบวก รอตรวจ PCR ซ้ำเพื่อยืนยันผล สรุปรวมคลัสเตอร์นี้ มีแรงงานติดเชื้อแล้ว 202 ราย และลูกแรงงานติดเชื้อ 3 ราย
4.คลัสเตอร์ บ้านโคกเพชร ม.14 ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา เดิมพบคนในชุมชนติดเชื้อ 71 ราย ล่าสุดพบติดเชื้อเพิ่มอีก 14 รายและมี 2 ราย ที่ผล ATK เป็นบวก รอผลตรวจ PCR ซ้ำยืนยันผล และตอนนี้ยังพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มเรื่อยๆ ซึ่งทางชุมชน และ รพ.เทพรัตน์ ได้เร่งค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง รวมคลัสเตอร์นี้ติดเชื้อแล้ว 85 ราย
5.คลัสเตอร์โรงงานลีดเดอร์อินดัสทรีส์ อ.สูงเนิน เดิมมีพนักงานติดเชื้อ 18 ราย และเชื้อแพร่เป็นวง 2 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหรือคนในครอบครัวติดเชื้ออีก 3 ราย ล่าสุด พบพนักงานติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย และอีก 1 รายผลตรวจATK เป็นบวก รอPCR ซ้ำเพื่อยืนยันผล ซึ่งทางโรงงานได้ให้ความร่วมมืออย่างดี มีการทำ Factory Quaranteen และ Factory Isolation ภายมต้การกำกับดูแลของ รพ.สูงเนิน และศปก.อำเภอสูงเนิน ซึ่งคาดว่าจะสามารถจำกัดวงการแพร่ระบาดได้โดยเร็ว รวมคลัสเตอร์นี้ติดเชื้อ 20 ราย
6.คลัสเตอร์ ครอบครัวและเครือญาติ บ้านปะคำ หมู่ 10 ต.สระพระ อ.พระทองคำ จากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นหญิงตั้งครรภ์ เดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยๆ และร่วมกิจกรรมสังสรรค์บ่อยครั้งโดยวันที่ 29 ตุลาคมคม 2564 มีอาการป่วยและตกเลือด จึงเข้ารักษาที่ รพ.พระทองคำ ก่อนย้ายไป รพ.มหาราชฯ ซึ่งผลตรวจATK และ PCR เป็นบวกติดเชื้อโควิด 19 ทีมสอบสวนโรคจึงค้นหาเชิงรุกในครอบครัว คนที่อยู่ร่วมบ้าน และเครือญาติใกล้ชิด พบติดเชื้อ 6 ราย ซึ่ง ศบก.อำเภอได้ขยายวงการค้นหาในกลุ่มเครือญาติ 21 คน และขยางวงออกไปเพิ่มเติมหาความเชื่อมโยงของผู้ป่วย เนื่องจากพบ
7.คลัสเตอร์ กิจกรรมสังสรรค์ อ.ปากช่อง ซึ่งพบการแพร่ระบาดของเชื้อออกไป 2 วง โดยวงแรก เป็นกลุ่มเพื่อนๆที่นัดพบปะสังสรรค์ จำนวน 27 คน จะทำกิจกรรมร่วมกันโดยหมุนเวียนเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ ซึ่งผู้ป่วยรายแรก เป็นชายอายุ 55 ปี ได้แพร่เชื้อให้เพื่อนๆ ทำให้วงแรกมีผู้ติดเชื้อใน 8 ราย ซึ่งต่อมาเชื้อแพร่ออกไปเป็นวงที่ 2 ทำให้คนในครอบครัวและเพื่อนของเพื่อน ติดเชื้ออีก 2 ราย รวมคลัสเตอร์นี้ติดโควิด 19 แล้ว 10 ราย และเนื่องจากกลุ่มนี้มีการเคลื่อนย้ายทำกิจกรรมร่วมกันในสถานที่ต่างๆ ทาง ศบก.อำเภอปากช่อง จึงเร่งตามหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่มเติมอย่างเข้มข้น เพื่อนำผู้ติดเชื้อมาเข้าสู่ระบบการรักษาให้ได้โดยเร็ว
ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ ได้สั่งกำชับ ศบก.ทั้ง 32 อำเภอเฝ้าระวังการรวมกลุ่มเลี้ยงสรรค์หรือทำกิจกรรมร่วมกัน อย่างเข้มข้นด้วย เพื่อป้องกันควบคุมและสกัดโรคโควิด 19 ไม่ให้แพร่ระบาดออกไปเป็นวงกว้าง จนเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่ขึ้นอีก ในขณะที่คลัสเตอร์เรือนจำกลางนคราชสีมา ศูนย์โควิด 19 โคราช สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รายงานว่า พบผู้ต้องขังผลเป็นบวกจำนวน 187 ราย และ ติดเชื้อเพิ่มอีก 6 ราย รวมติดเชื้อล่าสุด อยู่ที่ 193 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมของเรือนจำกลางนครราชสีมา อยู่ที่ 456 ราย โดยส่งรักษาที่ รพ.มหาราชฯ 3 ราย , รพ.โกลเด้นเกท 7 ราย และกักตัวในเรือนจำ 446 ราย
ส่วนทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จากจำนวนผู้ต้องขังหญิงทั้งหมด 1,925 ราย ได้ตรวจเชิงรุก ATK และ PCR ผู้ต้องขังหญิง ล่าสุดพบติดเชื้อโควิด 19 รวมจำนวน 260 ราย ซึ่งได้แยกกักทุกรายใน รพ.สนามทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา พร้อมกับทำ Bubble and Seal ในทัณฑสถานฯ ด้วย สรุปรวมยอดสะสมผู้ต้องขังในจังหวัดนครราชสีมา ที่ติดเชื้อโควิด 19 มีจำนวน 716 ราย
ข้อมูลจาก : ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดนครราชสีมา
ภาพจาก : ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดนครราชสีมา