คณบดีศิริราช แนะชะลอเปิดประเทศ 1 เดือน ห่วงโควิดพันธุ์ใหม่ ลดประสิทธิภาพวัคซีน
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล แนะรัฐชะลอเปิดประเทศท่องเที่ยว ห่วงผลกระทบโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น และมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีน
วันนี้ (16 ก.ย.64) ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงกรณีการเดินหน้าเปิดประเทศในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ว่า ขณะนี้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าไม่น่ากลัว แต่ที่ห่วงคือสายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น และมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีน
ทั้งนี้ เข้าใจว่าการเปิดประเทศเป็นการคิดเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่อยากให้นำบทเรียนของ "ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" มาประกอบการพิจารณา เพราะแม้ฉีดวัคซีนครบแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสติดเชื้อ และหากยกเลิกมาตรการกักตัวก็น่าเป็นห่วง โดยการทำแซนด์บ็อกซ์ คือทำเฉพาะพื้นที่ ไม่ใช่พื้นที่ทั้งหมด ไม่ได้เกิดผลกระทบวงกว้าง จึงสามารถยกเลิก หรือแก้ไขได้
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ในการเปิดประเทศที่ไทยกำลังจะทำนี้ ถือว่าเปิดเร็วกว่าประเทศอื่นๆ โดยมองในทางวิชาการ เพราะการเปิดประเทศในต่างประเทศ หมายความว่า ประเทศนั้น ๆ มีการฉีดวัคซีนเกิน 70%
แต่สำหรับประเทศไทย ขณะนี้การฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ยังแค่ 38% เข็ม 2 เพียง 18% เท่านั้น หากต้องการความชัวร์ว่าเปิดจริงมีความปลอดภัย ต้องฉีดวัคซีนเข็ม 1 ให้ได้ 60% และเข็ม 2 ต้องได้ 40-50% แต่จะเร่งฉีดตอนนี้ก็คงไม่ได้
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า หากไทยจะเปิดประเทศ แนะให้รออีกสัก 1 เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างพร้อมจริง ๆ ดังนั้นใครทำอะไรต้องรับผิดชอบด้วย ทั้งนี้การทำงานของแพทย์ก็คงต้องกลับมาเหนื่อยกันอีก ยังแทบไม่ได้พัก ตอนนี้สิ่งที่ห่วงคือหากมีการกลับมาระบาดอีก เตียงผู้ป่วย เตียงไอซียูต้องเพียงพอ ไม่ควรต้องเผชิญกับเตียงไม่พออีก และหวังว่าจะไม่เกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสที่มีผลต่อวัคซีน
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการเดินหน้าเปิดเมืองกรุงเทพฯ รับนักท่องเที่ยวในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ว่า ตนยังไม่ได้รับรายงาน จึงขอให้ติดต่อไปยัง รมว.ท่องเที่ยวฯ เพื่อสอบถามข้อมูล โดยตนยังไม่ได้หารืออะไรกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการประชุมคณะกรรมการวิชาการ ในเรื่องการลดวันกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนจะตรวจสอบกับ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เรื่องการแพทย์สาธารณสุขตนขอให้คณะทำงานเป็นผู้นำเสนอขึ้นมา ส่วนหากต้องการความสนับสนุนใดที่เหมาะสม ตนพร้อมจะผลักดันเต็มที่
“เรื่องการแพทย์เราเริ่มเองไม่ได้ ต้องให้การแพทย์เสนอขึ้นมา แม้จะเปิดประเทศ เราบอกเขาว่าถ้าจะเปิดต้องทำอย่างไร ไม่ใช่เราไปสั่งเขาว่าจะเปิดวันนี้ ต้องเปิดให้ได้ แบบนี้ไม่ได้ เพราะเขาต้องเช็กเรื่องวิชาการต่างๆ ประเมินความเสี่ยง ความพร้อมทุกเรื่อง” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า การเดินทางเข้าประเทศ ยังต้องคงไว้ใช่หรือไม่ มีแผนในการยกเลิกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การฉีดวัคซีนแพร่หลายทั่วโลกแล้ว ต้องหาวิธีการยอมรับการเดินทาง ซึ่งเมื่อไทยประกาศวัคซีนที่รองรับแล้ว ส่วนเรื่องการกักตัวต้องดูสถานการณ์ ดูประเทศต้นทางว่าเป็นประเทศที่ระบาดเยอะหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้ต้องให้กรมควบคุมโรคเป็นผู้ประเมิน โดยต้องอาศัยคนทำงานเตรียมพร้อม ไม่ใช่ไปสั่งอย่างเดียว แต่ถ้าไม่พร้อมก็ปฏิบัติไม่ได้
ส่วนความกังวลของผู้เชี่ยวชาญบางท่านที่แนะว่าการเปิดประเทศวันที่ 1 ต.ค. อาจเร็วเกินไปและขอให้รอเวลาต่อไปอีกซัก 1 เดือน นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มีใครบอกว่าจะเปิด ส่วนในเรื่องกรุงเทพมหานครขึ้นอยู่กับคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร/จังหวัดด้วย ทั้งนี้ กทม.มีระบบสาธารณสุขที่บริหารเอง จึงขอให้ไปถามที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม จะเปิดเมืองก็ต้องดูองค์ประกอบหลายด้าน
ภาพจาก TNN ONLINE