คลังปรับเงื่อนไขยิ่งใช้ยิ่งได้ ชงกลั่นกรองเพิ่มวงเงินหมื่นบาท
คลังเตรียมเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองในวันที่ 22 ก.ค.นี้ ปรับวงเงินใช้จ่ายโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้เป็น 10,000 บาทต่อคนต่อวันจากเดิม 5,000 บาทต่อคนต่อวัน พร้อมขยายเวลาสิ้นสุดเป็น 30 พ.ย.
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ในวันที่ 22 ก.ค.นี้ ปรับเพิ่มวงเงินใช้จ่ายที่จะนำมาคำนวณสิทธิ อี-วอยเชอร์โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เป็น 10,000 บาทต่อวันต่อคน จากเดิมจำนวน 5,000 บาทต่อวันต่อคน และขยายระยะเวลาใช้จ่ายจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย.นี้
นอกจากนี้กำลังรวบรวมและสรุปข้อมูลทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ผลจากมาตรการรัฐ เพื่อประเมินและปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 64 ใหม่ ซึ่งจะแถลงวันที่ 29 ก.ค.นี้ โดยแนวโน้มจีดีพีจะดีกว่า 0% แน่นอน ส่วนจะอยู่เท่าไรนั้นอยู่ในขั้นตอนการประเมิน จากครั้งล่าสุดมองไว้ที่ 2.3% นั้น เพราะคาดว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา 2 ล้านคน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 คาดนักท่องเที่ยวจะลดลงมาก ขณะที่ภาคการส่งออกอยู่ในช่วงปรับตัวดีขึ้น ส่วนการประกาศล็อกดาวน์กะทันหันของรัฐบาลก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ ดังนั้นจึงทำให้การประมาณการจีดีพีครั้งนี้มีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นด้วย
สำหรับปัจจัยหลักที่จะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติ คือวัคซีนซึ่งต้องเร่งกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนมากที่สุด เนื่องจากหากยังฉีดวัคซีนไม่ครอบคลุมและมีคนติดโควิด เมื่อเปิดให้ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจก็ต้องกลับมาปิดอีกอยู่ตลอด
ส่วนการออกมาตรการเยียวยาและบรรเทาทางเศรษฐกิจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ต้องการเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนฝั่งผู้ประกอบการในพื้นที่ควบคุมเข้มงวดและสูงสุด หรือล็อกดาวน์ 10 จังหวัดเป็นหลัก จากที่ผ่านมามาตรการทั้งหลายของรัฐบาลออกมาช่วยฝั่งประชาชนอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงเห็นว่าควรช่วยเหลือฝั่งผู้ประกอบการโดยตรงบ้าง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีการล็อกดาวน์ จึงออกมาตรการมาในรูปแบบนี้ ขณะเดียวกันการช่วยเหลือเยียวผู้ประกอบการ ก็จะช่วยลูกจ้าง พนักงานเน้นคนที่อยู่ในระบบประกันสังคม รวมทั้งคนนอกระบบที่ยังไม่มีฐานข้อมูลด้วย โดยขอให้กลุ่มดังกล่าว ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบประกันสังคม มาตรา 40 เพื่อให้มีข้อมูลในระบบ
"มาตรการที่ออกมาไม่ได้มองในเรื่องการ กระตุ้นและการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว แต่เน้นไปที่เยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการอยู่ได้ สามารถรักษาลูกจ้างไว้ได้ และจากมติ ครม. ที่ออกมา จะเน้นไปที่การเสริมสภาพคล่อง สำหรับ การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะต้องรอให้สถาน การณ์กลับมาเป็นปกติมากกว่านี้ ถึงจะมีเม็ดเงินออกมาสู่ระบบเศรษฐกิจ"
อย่างไรก็ตาม โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ รัฐบาลจะสนับสนุนเป็น e – Voucher เมื่อประชาชนใช้จ่ายค่าสินค้าหรือบริการ ได้แก่ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป ค่าบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ ไม่รวมถึงสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ น้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ บัตรกำนัล (gift voucher) บัตรเงินสด (gift card) และสินค้ารูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า ผ่าน g-wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. – 30 ก.ย. เวลา 06.00 น. – 23.00 น. วงเงินใช้จ่ายที่จะนำมาคำนวณสิทธิ e – Voucher ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน