ผอ.สถาบันวัคซีนเผยเดือนก.ค.ได้ ‘วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า’ ไม่ถึง 10 ล้านโดส
ผอ.สถาบันวัคซีนยอมรับว่าเดือนก.ค. วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จะได้ไม่ถึง 10 ล้านโดสตามวางแผนเอาไว้ เตรียมจัดหาจากแหล่งอื่นเพิ่ม
วันนี้ ( 2 ก.ค. 64 )นายแพทย์โสภณ เมฆธน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ นายแพทย์คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิผู้เชี่ยวชาญในด้านระบาดวิทยา และ นายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้ร่วมกันเสนวนาในหัวข้อ “วัคซีนโควิดไทยจะเดินหน้าต่ออย่างไร”
โดยในวงเสวนา นายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ยอมรับว่า ในเดือนกรกฎาคม ทางแอสตร้าเซนเนก้าจะไม่สามารถส่งมอบวัคซีนได้ตามจำนวนที่เราวางแผนไว้ 10 ล้านโดส โดยคาดว่าน่าจะส่งมอบได้เพียงเดือนละ 5-6 ล้านโดส แม้กำลังการผลิตของทางแอสตร้าเซนเนก้า จะอยู่ที่ 15- 16 ล้านโดสต่อเดือนแต่ก็ต้องมีวัคซีนส่วนหนึ่งส่งออกไปยังต่างประเทศเพราะเป็นนโยบายของบริษัทที่ต้องการจัดสรรวัคซีนให้ทั่วถึง อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้พยายามจัดหาวัคซีนจากแหล่งอื่นเพื่อให้การฉีดวัคซีนของไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ส่วนการจัดหาวัคซีนชนิด mRNA ขณะนี้เราได้ทำการจองวัคซีนไปเรียบร้อยแล้วจำนวน 20 ล้านโดส คาดว่าจะส่งมอบได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทำสัญญาซึ่งต้องผ่านหลายขั้นตอนเพราะผู้ซื้อจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ด้านนายแพทย์คำนวณมองว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในเดือนหน้าจะรุนแรงกว่าเดิม จากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตา หรืออินเดีย ที่จะเข้ามายึดครองตลาดแทนสายพันธุ์อัลฟาหรืออังกฤษ ซึ่งจะทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นคาดการณ์ว่าเดือนกรกฎาคมการเสียชีวิตจะเพิ่ม เป็น 1,400 ราย เดือนสิงหาคม จะเพิ่มป็น 2,000 ราย และเดือนกันยายนจะเพิ่มเป็น 2,800 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว ทางออกคือต้องปรับแผนการฉีดวัคซีนโดยมุ่งไปที่กลุ่มเสี่ยงเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต
ส่วนประสิทธิภาพวัคซีนที่เรามีอยู่ในขณะนี้ ทางนายแพทย์ทวี ยืนยันว่า ทั้งวัคซีนซิโนแวคและแอสตร้าเซเนก้า สามารถลดความรุนแรงและการเสียชีวิตได้ทั้งสายพันธุ์อัลฟา หรืออังกฤษ และเดลตา หรืออินเดีย ส่วนสายพันธุ์เบตา หรือแอฟริกาใต้ยังไม่มีผลศึกษากับวัคซีนซิโนแวค ส่วนวัคซีนแอสต้าเซนเนก้าจะมีประสิทธิภาพลดลงสามารถป้องกันได้เพียงร้อยละ 10 - 14 เท่านั้น