"หมออมร" เปิดเหตุผล 5 ข้อ คลายข้อสงสัยควรฉีด "วัคซีนโควิด-19 เข็มสาม" หรือไม่?
ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี เปิดคำตอบ 5 ข้อ เกี่ยวกับ "วัคซีนโควิด-19 เข็ม 3" หลังมีประชาชนสงสัยจะฉีดดีหรือไม่ ฉีดเมื่อไร และฉีดของยี่ห้ออะไรดี
วันนี้ (2 ก.ค.64) ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Warat Karuchit" ระบุว่า "จาก ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย สรุปว่า อย่าเพิ่งไปกังวลถึงเรื่องวัคซีนเข็มที่ 3 ครับ (บางคนจอง กว่าจะได้ก็อาจจะต้นปีหน้า ซึ่งป่านนั้นอาจจะมีวัคซีนที่ดีกว่าแล้ว) แพทย์ทำการศึกษาอยู่แล้ว ถ้ามีข้อสรุปก็จะมาแนะนำเอง แต่สำคัญคือ ควรรีบฉีดวัคซีนตัวใดก็ได้ไปก่อนให้ครบเพื่อป้องกันการป่วยหนักหรือเสียชีวิต และสำคัญที่สุดก็คือ "ระมัดระวังตัวเอง" ใส่แมสก์ อยู่ห่าง ล้างมือ ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ก็ตาม"
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์ อมร ลีลารัศมี นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ฯ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสยาม ได้ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.64 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ทุกวันนี้ ผมได้รับคำถามถี่มาก 1 ข้อที่ต้องตอบครับ คือ จะฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 ดีไหม? ถ้าดีจะฉีดยี่ห้ออะไร? เมื่อไหร่ดี? เป็นต้น หลายคนอยากจะรีบจอง หรือฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แล้วเพราะกลัวจะตกขบวนหรือแย่งคนอื่นไม่ทัน ผมจึงอยากเสนอความคิดเห็นของผมให้ประชาชนพิจารณาบ้างครับ
ก่อนอื่น ท่านต้องรีบฉีดวัคซีนให้ครบ 2 เข็มก่อนนะครับ ไม่ว่าจะเป็น Sinovac, Sinopharm หรือ AstraZeneca ก่อนที่จะมาถามคำถามนี้ ถ้ายังฉีดไม่ครบ ไม่ต้องเสียเวลามาคุยกัน รีบหาเวลาไปฉีดให้ครบเถอะครับ
ส่วนเข็มที่ 3 ที่ถามมานั้น ผมคิดแทนท่านว่า อยากฉีดวัคซีนที่ท่านคิดว่าดีที่สุด คำว่า "ดีที่สุด" คือเขาบอกกันมา หรือตัวเลขป้องกันโรคของวัคซีนยี่ห้อนี้สูงดี เช่น ร้อยละ 95 หรือว่ายี่ห้อนี้ได้ภูมิคุ้มกันตัวเลขสูงมากที่สุด หรือว่า เมื่อวัดภูมิคุ้มกันในผู้ที่ฉีดวัคซีนยี่ห้อนี้ ป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ในหลอดทดลองได้ผลดีกว่า เป็นต้น แล้วท่านก็คิดหรือเข้าใจว่า วัคซีนที่ฉันฉีดมาแล้ว ไม่ค่อยดี ไม่ได้ผล เลยจะไปหาฉีดเป็นเข็มที่ 3
แทนที่จะมุ่งประเด็นว่า ฉีดเพื่อป้องกันตนเองจากการเจ็บป่วยรุนแรงหรือถึงตายก่อน ซึ่งท่านได้รับผลดีข้อนี้แน่นอนอยู่แล้วถึงร้อยละ 90 ขึ้นไปจากการฉีดวัคซีนชนิดใดก็ได้ แต่การฉีดวัคนชนิดใดก็ป้องกันการติดเชื้อไม่ได้ ยังไม่ชัดว่าต้องใช้ภูมิคุ้มกันสูงถึงระดับใดจึงจะไม่ติดเชื้อเลย แต่ทราบว่าเริ่มมีภูมิคุ้มกันก็เริ่มใช้ได้ในการลดความรุนแรงจากการเจ็บป่วยแล้ว ที่สำคัญ การติดเชื้อจนก่ออาการรุนแรงยังขึ้นอยู่กับจำนวนเชื้อที่ท่านได้รับ หากไม่ระวังตัว จะรับเชื้อจำนวนมากในเวลาอันสั้น ท่านจะมีโอกาสป่วยรุนแรงแม้ฉีดวัคซีน
หากท่านระวังตัวดีแต่รับเชื้อโดยไม่คาดคิด เชื้อที่ได้รับจะมีจำนวนน้อย กลับจะเป็นผลดีเสียอีก (ให้อ่านต่อในข้อ 4) การฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว จึงยังต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม เช่นเดิมไปก่อน
เพื่อเสริมประสิทธิภาพการป้องกันโรคและความรุนแรงของการเจ็บป่วยของการฉีดวัคนชนิดใดก็ได้ ให้ได้ผลสูงสุด ผมเชื่อว่า เวลานี้ การใช้วิถีชีวิตใหม่ที่เข้มข้น ดีกว่าการไปหาฉีดวัคซีนเข็มที่ 3
ผมขอให้รออีก 3-6 เดือนเพราะยังมีความไม่แน่นอน อีก 5 ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อกลายพันธุ์ และการจองวัคซีนสำหรับคนที่ฉีดวัคชีนครบ 2 เข็มแล้ว คือ
1. เชื้อกลายพันธุ์ที่จะระบาดในปีหน้า จะเป็นเชื้อเดลต้าตัวนี้อีกไหม? หรือเป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่ใหม่กว่าอีกอาจจะต้องปรับวัคซีนให้ "ตรงกับเชื้อ" มากขึ้น แต่ถ้าควบคุมการระบาดได้ ความต้องการวัคซีนจะลดลง
2. วัคซีนในปีหน้า นอกจากปรับวัคซีนให้ "ตรงกับเชื้อ" ที่น่าจะระบาดแล้ว อาจจะมีวิธีบริหารที่สะดวก เช่น ใช้สูดดมแทนการฉีด หากจองและสั่งซื้อวัคซีนตอนนี้ ก็ได้วัคซีนของเชื้อปัจจุบันหรืออดีต การฉีดวัคซีนป้องกันสายพันธุ์เดิม อาจจะไม่ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นมากเท่าไร หรืออาจจะมีผลข้างเคียงมากขึ้น
3. การแพ้วัคซีน ผลข้างเคียงต่าง ๆ จากการฉีดวัคซีนในปัจจุบันจะมีข้อมูลเพิ่มขึ้นมากเพราะฉีดไปเยอะแล้ว อาจจะนำมาสู่การผลิตวัคซีนรุ่นใหม่ที่มีการแพ้หรือผลข้างเคียงลดลงอีก
4. ระหว่างรอจนถึงปีใหม่ เนื่องจากเชื้อเดลต้าที่แพร่กระจายเก่งมาก ท่านอาจจะติดเชื้อชนิดนี้โดยไม่คาดคิด ถ้าท่านเป็นคนระวังตัวดีอยู่แล้ว การพลาดพลั้งไปรับเชื้อจะเป็นการรับเชื้อจำนวนน้อย ท่านสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง...ฯลฯ ถ้าท่านฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว การติดเชื้อจำนวนน้อยหลังฉีดวัคซีนครบ จะกลับกลายเป็นการรับวัคซีนเข็มที่ 3 จากการติดเชื้อตามธรรมชาติ ทำให้ภูมิคุ้มกันของท่านสูงลิ่วขึ้นไปอีก ท่านจะมีอาการน้อยหรือแทบไม่มีเลยหรือไม่รู้ตัวว่า รับวัคซีนเข็มที่ 3 ไปแล้ว
5.ถึงปลายปีหรือต้นปีหน้า วัคซีนทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าน่าจะล้นตลาด ท่านเลือกจองได้และราคาน่าจะถูกลงกว่านี้อีก ให้คอยได้เลยถ้ายังอยากจะฉีด
ยังมีประชากรอีกกลุ่มในบ้านเราที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซึนเลยคือ เด็ก นักเรียน วัยตั้งแต่ 3 ขวบถึง 18 ปี เราต้องรีบหาวัคซีนมาเตรียมฉีดให้ลูกหลานเราได้แล้วครับ
ดังนั้น ตอนนี้เราต้องช่วยให้ทุกคนได้รับวัคนเข็มที่ 1 และ 2 ให้ครบอย่างเร่งด่วน ฉีดให้ได้จำนวนมากที่สุด "แข่งกับเวลา" ตามศักยภาพที่แต่ละแห่งจะฉีดได้ ถ้าใครได้วัคซีนเข็มที่ 3 มาตอนนี้ รีบนำไปฉีดให้คนอื่นที่ยังไม่ได้เข็มที่ 1 หรือ 2 เถิดครับ ใครที่ฉีดวัคซีน AstraZeneca (AZ) มาครบสองเข็ม อย่าไปฉีด AZ ซ้ำอีกเป็นเข็มที่สาม ประชาชนอย่างเรา "ปล่อยวาง" ให้นักวิทยาศาสตร์และหมอไปศึกษาประโยชน์ของการฉีดเข็มที่ 3 จากข้อมูลทางระบาดวิทยาของบ้านเราและต่างประเทศใน 3 เดือนข้างหน้า และข้อมูลวิชาการที่จะเกิดอย่างมากมาย จนได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก่อน แล้วค่อยมาบอกประชาชนอย่างเราว่า จะให้ปฏิบัติอย่างไรนะครับ ตอนนี้ผมแนะนำให้ประชาชนฟัง ติดตามและอยู่เฉยๆ กับเข็มที่ 3 ก่อน
ผมจึงสรุปจากความคิดเห็นของผมว่า ปล่อยเรื่องวัคซีนเข็มที่ 3 ให้นักวิทยาศาสตร์ หมอ ได้ทำการบ้านอย่างรอบด้านมาอย่างดีจนได้ข้อมูลที่ตกผลึกว่า จะฉีดเข็ม 3 ไหม? ถ้าจะฉีด จะแนะนำยี่ห้อใดสำหรับใครบ้าง? ณ ขณะนี้ ประชาชนอย่างเราๆ ฟังรับทราบติดตามข่าวไว้แบบ "รอไปก่อน" ไม่ต้องมีปฏิกิริยาอะไรนะครับ