ซิดนีย์ ขยายล็อกดาวน์เป็น 2 สัปดาห์ สกัดโควิดสายพันธุ์เดลตา

วันนี้ (27 มิ.ย.64) ซิดนีย์ เมืองเอกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์นาน 2 สัปดาห์ หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมาพุ่งอีกครั้ง ส่งผลให้ประชาชนกว่า 1 ล้านคนในใจกลางเมืองและพื้นที่ชานเมืองด้านตะวันออก อยู่ภายใต้มาตรการคุมเข้มมาตั้งแต่วันศุกร์ แต่ขณะนี้ มาตรการล็อกดาวน์ขยายครอบคลุมทั่วเมืองและพื้นที่ปริมณฑลบางแห่งด้วย และยังได้ขยายเวลาจากเดิม 1 สัปดาห์เป็น 2 สัปดาห์ หลังพบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา (Delta) ที่ระบาดง่ายและเร็วในซิดนีย์ เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 80 คนแล้วในช่วงไม่กี่วันมานี้

นางกลาดีส์ เบเรจิเคลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW) กล่าวว่า คำสั่งพักอยู่ที่บ้าน หรือ stay-at-home จะบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคมในพื้นที่ทั่วซิดนีย์ ซึ่งมีประชากรประมาณ 5 ล้านคน และรวมทั้งพื้นที่บลู เมาน์เทนส์ (Blue Mountains) ชายฝั่งตอนกลางและเมืองวูลลองกอง

มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุว่า เมื่อมีเชื้อที่ระบาดง่ายคล้ายกับไวรัสเดลตาเกิดขึ้น การล็อกดาวน์ 3 วันคงไม่ได้ผล หากเราจะล็อกดาวน์ก็ต้องทำด้วยความเหมาะสม

ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า พวกเขาจะใช้เทคโนโลยีจดจำแผ่นป้ายทะเบียน เพื่อตรวจสอบรถยนต์และรับประกันว่า ประชาชนจะไม่หลงออกจากพื้นที่ล็อกดาวน์

ขณะเดียวกัน เมื่อวันเสาร์ นิวซีแลนด์ได้ระงับข้อตกลงเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัวกับออสเตรเลีย เป็นเวลา 3 วัน เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ล่าสุดในออสเตรเลีย หลังจากข้อตกลงเดินทางระหว่าง 2 ประเทศเพื่อนบ้าน เริ่มใหม่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา การเดินทางระหว่างนิวซีแลนด์และภูมิภาคเฉพาะของออสเตรเลีย ถูกปิดในช่วงสั้น ๆ เพราะเกิดการระบาดของไวรัสโควิด แต่นี้เป็นครั้งแรกที่นิวซีแลนด์ระงับการเดินทางทั่วทุกรัฐของออสเตรเลีย

อย่างไรก็ดี ออสเตรเลียยังถือว่ารักษาอัตราการติดเชื้อโควิดในระดับต่ำ และนี้เป็นการล็อกดาวน์ครั้งแรกในซิดนีย์ เมืองใหญ่สุดของออสเตรเลีย ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว

การระบาดรอบใหม่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน ในเมืองบอนดี ชานเมืองชายหาดที่มีชื่อเสียง และระบาดครั้งแรกในใจกลางเมือง และจากนั้นก็ระบาดในพื้นที่ตะวันตกของเมือง หลังจากพนักงานขับรถรับส่งผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศจากสนามบินติดเชื้อโควิด