ศูนย์กลางบางซื่อฉีดวัคซีนแล้ว 1.75 หมื่นคน มีอาการแพ้แค่ 1 ราย
ศูนย์กลางบางซื่อลุยฉีดวัคซีนต้านโควิดไปแล้ว 3 วัน 1.75 หมื่นคน มีแพ้วัคซีนนำส่งรพ. 1 ราย อาการปกติแล้ว
วันนี้(27 พ.ค. 64) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า วานนี้ได้ตราจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อพร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ซึ่งศูนย์ฯ ดังกล่าวมีเป้าหมายในการดำเนินการอย่างแรก คือ เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรในสังกัดกระทรวงคมนาคม และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของกระทรวงคมนาคม ได้แก่ กลุ่มบุคคลที่ทำความสะอาดสถานที่ราชการ กลุ่มพนักงานรักษาความปลอดภัย รวมทั้งกลุ่มผู้ขับขี่รถรับจ้างสาธารณะทั่วประเทศ ซึ่งมีประมาณ 350,000 คน
แผนการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมายข้างต้นกำหนดไว้วันละประมาณ 10,000 คน โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ค.64 ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดให้บริการ ฉีดวัคซีนได้ประมาณ 5,000 คน, วันที่ 25 พ.ค.64 ฉีดวัคซีนได้ 7,371 คน และในวันที่ 26 พ.ค.64 ตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น. ฉีดวัคซีนไปแล้ว 5,559 คน แบ่งออกเป็น Target Group 4,631 คน และ Onsite 928 คน
การฉีดวัคซีนมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 936 คนต่อชั่วโมง โดยในชั่วโมงสุดท้ายสามารถฉีดได้ถึง 1,300 คน ซึ่งสูงกว่าที่ได้ตั้งเป้าไว้ที่ 900 คนต่อชั่วโมง รวมทั้ง 3 วัน ฉีดวัคซีนไปได้ 17,535 คน แบ่งออกเป็น Target Group 13,075 คน Onsite 4,460 คน
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การให้บริการของศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องมาจากมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยในการการลงทะเบียน แต่มีบางจุดที่อาจล่าช้าไปบ้าง คือ จุดวัดความดัน ซึ่งต้องเพิ่มจำนวนเครื่องวัดความดัน และได้รายงานให้รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุขรับทราบแล้ว
ส่วนอาการแพ้วัคซีนพบว่ามีผู้แพ้วัคซีนเพียงเล็กน้อย มีอาการที่ต้องนำส่งโรงพยาบาลเพียง 1 ราย คือผู้ที่ฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 25 พ.ค.64 ซึ่งขณะนี้มีอาการเป็นปกติดีแล้ว การฉีดวัคซีนเข็มแรกของศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.-6 มิ.ย.64 หลังจากนั้นจะเริ่มฉีดเข็มที่ 2 โดยจะใช้ระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 28 วัน
สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ต่างจังหวัดได้มอบให้กรมการขนส่งทางบกซึ่งมีสำนักงานขนส่งอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดจะเป็นศูนย์กลางเพื่อบูรณาการด้านข้อมูลบุคลากรของกระทรวงคมนาคม และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม และประสานงานกับทางจังหวัดและสาธารณสุขจังหวัด โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ในการดำเนินการได้ครบกลุ่มเป้าหมาย