ไทยพบโควิด "สายพันธุ์แอฟริกาใต้" จากคลัสเตอร์ตากใบ
กลุ่มพันธมิตร COVID-19 Network Investigations (CONI) ถอดรหัสพันธุกรรมพบ "โควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้" ตระกูล B.1.351 จากคลัสเตอร์ ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
วันนี้ (22 พ.ค.64)กลุ่มพันธมิตร COVID-19 Network Investigations (CONI) ซึ่งประกอบด้วย นักวิทยาศาสตร์ที่สังกัดสถาบันในไทยและต่างประเทศ ที่ได้รับการประสานจากกระทรวงสาธารณสุขให้ร่วมสืบสวนคลัสเตอร์ ที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งได้รับข้อมูลว่าอาจเป็นคลัสเตอร์ติดเชื้อต่อเนื่องในประเทศไทยจากผู้ลักลอบเข้าเมือง ล่าสุดได้รายงานผลการตรวจสอบพบว่า เป็นสายพันธุ์แอฟริกาใต้
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดเก็บชุดตัวอย่างกลุ่มนี้เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ก่อนส่งต่อให้ CONI ถอดรหัสพันธุกรรม เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ซึ่งผลการถอดรหัสพันธุกรรมระดับจีโนมพบว่าเป็นเชื้อสายตระกูล B.1.351 หรือสายพันธุ์แอฟริกาใต้ และได้ส่งข้อมูลทั้งหมดให้หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว
กลุ่ม CONI ระบุด้วยว่า เชื้อสายตระกูล B.1.351 มีการกลายพันธุ์ในตำแหน่งที่คาดว่ามีผลกระทบต่อการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันมนุษย์ต่อไวรัส และลดประสิทธิภาพการทำงานของวัคซีน แต่มิได้แปลว่าวัคซีนจะใช้ไม่ได้ เพียงแต่ต้องเพิ่มอัตราส่วนประชากรผู้ได้รับวัคซีนให้สูงขึ้นเพื่อเกิดการป้องกันระดับประชากร
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ รศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก รพ.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยเกี่ยวกับสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นไวรัสที่มีการกลายพันธุ์ว่า ในปัจจุบันได้มีคำแนะนำให้มีการเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของไวรัสใน 3 สายพันธุ์ ประกอบด้วย
สายพันธุ์ B.1.1.7 ที่ระบาดอยู่ในอังกฤษ โดยไวรัสตัวนี้สามารถจับกับเซลส์มนุษย์ได้ดีขึ้น และแบ่งตัวได้ดีขึ้น ส่งผลให้เกิดการแพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว
สายพันธุ์ B.1.351 ที่ระบาดอยู่ในแอฟริกาใต้ โดยไวรัสตัวนี้สามารถหนีภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้น และอาจมีผลต่อการใช้วัคซีนที่พัฒนาโดยสายพันธุ์ดั้งเดิม
สายพันธุ์ P.1 ที่ระบาดอยู่ในบราซิล ซึ่งพลาสม่าหรือระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์จับกับไวรัสนี้ได้น้อยลง เมื่อเทียบกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
ขณะที่ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ข้อมูลจากอำเภอตากใบ ระบุว่า พบการระบาดแบบกลุ่มก้อนที่ตำบลเกาะสะท้อน ส่งผลให้ปัจจุบันอำเภอตากใบ มีผู้ติดเชื้อจำนวน 65 คน