เปิดเงื่อนไข ศบค.ลดกักตัวเหลือ 10 วัน ผู้เดินทางเข้าไทยต้องมีเอกสารอะไรบ้าง?
ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เห็นชอบแผนการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ลดระยะเวลากักกันบุคคล ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เหลือ 10 วัน จากเดิม 14 วัน สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
วันนี้ (19 มี.ค.64) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงผลการประชุมของ ศบค.ชุดใหญ่ วันนี้ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานฯ โดยที่ประชุมได้เห็นชอบแผนการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคโควิด - 19 ที่มีเรื่องสำคัญโดยเฉพาะการลดระยะเวลากักกันบุคคล ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการการกักตัวนั้น เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้รายงานว่ารัฐบาลต้องใช้งบประมาณในส่วนนี้จำนวนมาก บางคนมีการเข้าออกประเทศถึง 7 ครั้งต่อปี ดังนั้น จะมีการปรับรูปแบบโดยให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาออกค่าใช้จ่าย โดยตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไปจะปรับสถานที่กักตัวให้เหลือเท่าที่จำเป็นและเหมาะสม และตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ที่คาดว่าจะมีการกระจายวัคซีนแล้วจะปรับรูปแบบเป็นสถานที่คุมไว้สังเกต โดยผู้ที่จะเดินทางเข้ามา จากเดิมที่ต้องมีใบรับรองการบิน (FIT TO FLY) กับผลการตรวจโควิด-19 จะเหลือเพียงผลการตรวจโควิด-19 เพียงอย่างเดียว
และตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. จะให้ผู้ที่เข้าสถานที่กักตัวของรัฐสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น จำนวน 5 กิจกรรม ได้แก่ ใช้ห้องฟิตเนสได้ ออกกำลังกายกลางแจ้งได้ ใช้สระว่ายน้ำได้ ปั่นจักรยานในพื้นที่ปิดได้ และซื้อสินค้าและอาหารจากภายนอกได้ จากนั้นวันที่ 1 ก.ค. – 30 ก.ย. สามารถรับประทานอาหารในห้องอาหารของโรงแรมได้ รวมถึงใช้บริการนวดเพื่อสุขภาพได้ และตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. จะกำหนดให้มีการกักตัวเฉพาะบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติกำหนด
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบมาตรการลดระยะเวลากักกันบุคคลผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรสำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน โดยลดระยะเวลากักกันผู้เดินทางโดยทั่วไปจาก 14 วัน เหลือ 10 วัน ในระยะที่ 1 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 30 มิ.ย.64 และครอบคลุมระยะที่ 2 ตั้งแต่ 1 ก.ค. - 30 ก.ย.64 โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
- คนไทยที่ไม่มีใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด (VC) และ ใบรับรองผลการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ไม่พบเชื้อ (CFC) ต้องรับการกักกัน 10 วัน และตรวจโควิด RT-PCR 2 ครั้ง ในวันที่ 3-5 และ ในวันที่ 9-10 ของการกักกันตัว
- คนต่างชาติที่ไม่มีใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด (VC) และ ใบรับรองผลการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ไม่พบเชื้อ (CFC) ต้องรับการกักกัน 10 วัน และตรวจโควิด RT-PCR 2 ครั้ง ในวันที่ 3-5 และ ในวันที่ 9-10 ของการกักกันตัว
- คนไทยและคนต่างชาติที่มีใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด (VC) และฉีดครบถ้วน มากกว่า 14 วัน และไม่น้อยกว่า 3 เดือน ก่อนการเดินทาง รวมทั้งมี ใบรับรองผลการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ไม่พบเชื้อ (CFC) สามารถเข้ารับการกักกันตัวเหลือ 7 วัน และตรวจโควิด RT-PCR 1 ครั้ง ในวันที่ 5-6 ของการกักกันตัว
- คนไทยและคนต่างชาติที่มีใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด (VC) และฉีดครบถ้วน มากกว่า 14 วัน และไม่น้อยกว่า 3 เดือน ก่อนการเดินทาง แต่ไม่มีใบรับรองผลการตรวจหาเชื้อโควิด 19 สามารถเข้ารับการกักกันตัวเหลือ 7 วัน และตรวจโควิด RT-PCR 2 ครั้ง ในวันที่ 0-1 และ ในวันที่ 5-6 ของการกักกันตัว
ขณะที่ กรณีผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดยังคงต้องเข้ารับการกักกันตัวเหมือนเดิม คือ 14 วัน