กทม.เปิดแผน-เป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้คนกรุง
กทม.เปิดแผน-เป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้คนกรุง ย้ำผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ไม่ต้องติดต่อเพื่อขอรับบริการ ให้รอรับการติดต่อกลับเท่านั้น
วันนี้ (4มี.ค.63) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานกรุงเทพมหานคร โดยได้กล่าวว่า สำหรับแผนและเป้าหมายในการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรุงเทพมหานคร
ระยะแรกเดือนมีนาคม สัปดาห์ที่ 1 กลุ่มเป้าหมายคือ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน แบ่งเป็น โรงพยาบาลเอกชน 13 แห่ง โรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ 3 แห่ง (โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธโร อุทิศ โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน และ โรงพยาบาลราชพิพัฒน์) และศูนย์บริการสาธารณสุข 7 แห่ง ในพื้นที่ 6 เขตเสี่ยง รวม 3,278 คน สำหรับสถานที่ให้บริการฉีดคือโรงพยาบาลต้นสังกัดของบุคลากรกลุ่มเป้าหมาย
สัปดาห์ที่ 2 กลุ่มเป้าหมาย คือ อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่ 6 เขตเสี่ยง สถานที่ฉีดวัคซีนคือโรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ 3 แห่ง
สัปดาห์ที่ 3-5 กลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน 16 แห่ง และศูนย์บริการสาธารณสุข 7 แห่ง ในพื้นที่ 6 เขตเสี่ยง โดยจะรับบริการฉีดวัคซีน ณ โรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ 3 แห่ง และโรงพยาบาลเอกชน 12 แห่ง
ทั้งนี้ ระยะเวลาการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมายอาจมีความล่าช้า เนื่องจากการบริหารจัดการทุกขั้นตอนต้องมีความรอบคอบ และคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ได้รับวัคซีนสูงสุด
ประชาชนบางส่วนเห็นว่าตนเองมีคุณสมบัติอยู่ในกลุ่มของผู้ป่วยเรื้อรังที่สามารถเข้ารับวัคซีนได้นั้น ไม่ต้องติดต่อเพื่อขอรับบริการแต่อย่างใด ขอให้รอรับการติดต่อกลับจากสถานพยาบาลที่ท่านทำการรักษาอยู่เท่านั้น
เนื่องจากโรงพยาบาลที่ทำการรักษาจะเป็นหน่วยงานที่ส่งข้อมูลของผู้ป่วยที่พิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะได้รับวัคซีนเข้าสู่ระบบของกระทรวงสาธารณสุข หากถึงคิวจะได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่เพื่อให้มารับการฉีดวัคซีนอีกครั้ง
ส่วนของกลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีคุณสมบัติอายุ 18-59 ปี และประสงค์จะรับวัคซีนนั้น ในขณะนี้ยังไม่สามารถลงทะเบียนผ่านระบบแอปพลิเคชั่นหมอพร้อมได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ ขอให้รอการประกาศจากทางกระทรวงสาธารณสุขก่อนจึงจะสามารถเข้าไปลงทะเบียนได้
ที่ประชุมมอบหมายให้สำนักการแพทย์ สำนักอนามัย และสำนักงานประชาสัมพันธ์เร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้ประชาชนมีความเข้าใจในกระบวนการเข้ารับวัคซีนเพื่อลดความกังวลและตอบข้อสงสัยของประชาชน และให้การบริหารจัดการวัคซีนเป็นไปอย่างมีระบบ ไม่ให้เกิดความแออัดในสถานพยาบาล ซึ่งจะเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดของโรคได้