อิสราเอลพบ ทารกในครรภ์ เสียชีวิตจาก ‘โควิด-19’ รายแรก
อิสราเอล รายงานว่ามีทารกในครรภ์มารดา เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 เป็นรายแรกของประเทศ
วันนี้ ( 17 ก.พ. 64 )กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล รายงานเมื่อวันอังคารว่า ทารกในครรภ์มารดาซึ่งติดเชื้อโควิด-19 ได้เสียชีวิตลง เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นเคสแรกในอิสราเอลที่เจอทารกในครรภ์เสียชีวิต และเป็นเพียงไม่กี่เคสที่มีรายงานทั่วโลก ทั้งนี้แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตของทารก ว่า มีโอกาสสูงที่จะเกิดจากการที่มารดาติดเชื้อไวรัส และส่งผ่านโรคไปสู่ทารกในครรภ์ผ่านทางรกด้วย
สำนักข่าว The Times of Israel รายงานว่า หญิงวัย 29 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 25 สัปดาห์ เปิดเผยว่าว่า เพียง 2 วัน หลังจากที่เธอพบว่ามีอาการป่วยป่วย มีไข้ และเริ่มไม่รู้สึกว่าทารกในครรภ์ดิ้น จึงรีบเดินทางไปยังศูนย์การแพทย์ แอสซูตา ในเมือง แอชดัด เพื่อตรวจวัดการเต้นของหัวใจเด็ก ทำให้แพทย์ต้องดำเนินการผ่าคลอดฉุกเฉินเพื่อนำทารกออกมา ก่อนจะพบว่าทั้งเธอ และทารกในครรภ์ติดเชื้อโควิด-19
ผู้เชี่ยวชาญอาวุธโสที่ศูนย์การแพทย์แห่งนี้ ระบุว่า ยังไม่ได้ตัดประเด็นอื่นที่ทำให้เด็กเสียชีวิตออกไป แต่เชื่อว่าการที่ทารกติดเชื้อโควิด-19 จะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เสียชีวิตลง แต่ก็เร็วเกินไปที่จะสรุปเป็นภาพกว้างได้ว่าไวรัสสามารถคร่าชีวิตเด็กในครรภ์ได้ เนื่องจากเพิ่งเกิดขึ้นเพียง 1 รายในอิสราเอล และเพียงไม่กี่รายทั่วโลก
ขณะที่ผู้เชี่ยชาญอีกมากเชื่อว่า ทารกในครรภ์มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัส “ระหว่างการคลอด” มากกว่าที่จะติดเชื้อใน “ระหว่างที่อยู่ในครรภ์” เพราะยังค่อนข้างเป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ได้ว่า ทารกในครรภ์นั้นติดเชื้อจากแม่หรือไม่ ซึ่งจะไม่มีวันรับรู้ได้จนกว่าจะคลอดเด็กออกมา
กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล ออกคำแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์เข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 หลังจากที่พบว่ามีหญิงตั้งครรภ์หลายคนที่ติดเชื้อแล้ว และทำให้ทารกในครรภ์ที่คลอดออกมาติดเชื้อไปด้วย ซึ่งมีความเสี่ยงทั้งต่อตัวแม่และเด็ก เช่นเดียวกับกรมควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ CDC ที่ระบุว่า หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับอนุญาตให้ฉีดวัคซีน เพราะถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะป่วยหนัก หรือเสียชีวิตจากโรคโควิด-19