สวีเดนพ้อโลกยังไม่เข้าใจการรับมือโควิด-19 ของประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญคนดังผู้ออกแบบนโยบายรับมือโควิด-19 ของสวีเดน ตัดพ้อโลกยังไม่เข้าใจวิธีการรับมือโรคระบาดของประเทศ
วันนี้ ( 29 มิ.ย. 63 )สวีเดนเผชิญวิกฤตโควิด-19 มากว่าสามเดือนแล้ว และยังคงแน่วแน่กับนโยบายไม่ล็อกดาวน์เพื่อยับยั้งการระบาด เพราะมองว่า โลกต้องอยู่กับโควิด-19 อีกนาน ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญคนดังของสวีเดนซึ่งเป็นผู้ออกแบบนโยบายของประเทศในการรับมือโควิด19 ระบุว่า โลกยังเข้าใจไม่ถูกต้องนักกับแนวทางของสวีเดน
ดร. แอนเดอรส์ เทคเนลล์ นักระบาดวิทยาของสวีเดนยืนยันว่า แนวทางที่สวีเดนใช้เพื่อรับมือกับโควิด-19 นั้นยังคงถูกเข้าใจผิดไปทั่ว
เทคเนลล์อธิบายว่า ตอนนี้โลกแค่อยู่ในระยะแรกของการระบาดของโควิด-19 ที่ไม่แน่นอนและยาวนาน นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมสวีเดนเลือกที่จะเปิดสังคม แต่สอนให้ประชาชนรักษาระยะห่างทางสังคมแทน เพราะเป็นวิธีที่อยู่กับโลกความเป็นจริงที่สุดในการรับมือในระยะยาว
เขาบอกว่า ไม่มีทางจะรู้ได้เลยว่าสถานการณ์ระบาดนี้จะสิ้นสุดเมื่อไหร่
ทั้งนี้สวีเดนมีประชากรราว 10 ล้านคน มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม 65,137 คน เสียชีวิต 5,280 ราย
WHO ว่าอย่างไร?
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เทคเนลล์เปิดศึกกับองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ว่า “ผิดพลาดอย่างร้ายแรง” จากการจัดให้สวีเดนเข้าไปอยู่ในกลุ่ม 11 ประเทศยุโรปที่เกิดการแพร่เชื้ออย่างเร่งตัว จนนำไปสู่การกลับมาระบาดครั้งใหญ่ และจะเป็นอันตรายต่อระบบสาธารณสุข
ข้อมูลของ WHO พบว่าในรอบ 14 วันที่ผ่านมา สวีเดน มีการติดเชื้อ 155 ราย ในประชากรทุกๆ 100,000 ราย ซึ่งถือว่าสูงมากกว่าชาติอื่นๆในยุโรป ชาติที่อยู่ในรายชื่อดังกล่าวคือ มอลโดวา มาเซโดเนียเหนือ อัลเบเนีย บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา ยูเครน โคโซโซ อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจัน คีร์กิสถาน และคาซัคสถาน
ดร.เทคเนลล์ระบุว่า WHO ตีความข้อมูลผิด สวีเดนพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น เพราะเพิ่มการตรวจหาเชื้อ เป็นเรื่องที่แย่ ที่ WHO สับสน เอาสวีเดนไปจัดอยู่รวมกับกลุ่มประเทศที่กำลังอยู่ในช่วงแรกของการระบาด นอกจากนี้ WHO ยังไม่เคยมาสอบถามข้อมูลจากสวีเดน ทั้งๆที่ จำนวนผู้ป่วย “วิกฤต” ในสวีเดนลดลงเหลือต่ำมาก อัตราการเสียชีวิตก็ลดลงแล้ว จนมาอยู่ที่ระดับอัตราการเสียชีวิตปกติแล้ว
ด้าน WHO ตอบ BBC ว่า เห็นด้วยว่า จริงอยู่ที่มีแนวโน้มที่บวกในสวีเดน แต่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ และจำนวนผู้ติดเชื้อต่อประชากรหนึ่งแสนคน ยังถือว่าสูงอยู่
ทำไมสวีเดนจึงกังวล?
ดร.เทคเนลล์ กังวลกรณีที่สวีเดนถูก WHO จัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศเสี่ยง เพราะชาติอียูกำลังทยอยเปิดพรมแดนแล้ว
ที่ผ่านมา ประเทศในกลุ่มนอร์ดิกได้ชะลอการเปิดเมืองรับชาวสวีเดน เช่น เดนมาร์กจะอนุญาตให้ชาวสวีเดนเข้าเมืองได้ ก็ต่อเมื่อต้องมาจากเมืองที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 20 คนต่อประชากร 100,000 รายในรอบสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าจาก 155 ตามรายงานของ WHO
ทั้งนี้ อียูตั้งใจเปิดพรมแนวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ และกำลังมีการหารือว่าจะอนุญาตให้ประเทศได้เข้าได้บ้างโดยพิจารณาจากอัตราการติดเชื้อ วิธีการรับมือของประเทศนั้นๆ และระบบการตรวจหาเชื้อและติดตามตัว ทำให้ประเทศเช่น สหรัฐฯ บราซิลและรัสเซีย อาจยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพรมแดน
ความเห็นผู้เชี่ยวชาญอื่น
นายวิลเลียม ฮานาจ นักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ระบุว่า นโยบายของสวีเดนนั้นแปลกประหลาดตรงที่ใช้แนวทางที่ไม่เข้มงวดในการยับยั้งการระบาด แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ สวีเดน ใช้แนวทางเหล่านี้มาตั้งแต่ระยะแรกที่เริ่มมีการระบาด แนวทางของสวีเดนนั้นอาจยั่งยืนในแบบที่ประเทศอื่นอาจทำไม่ได้ เพราะการล็อกดาวน์นั้นมีขึ้นเพื่อไม่ให้ผู้ติดเชื้อพุ่งโดยเร็วที่สุด ก่อนที่ระบบสาธารณสุขจะรับไม่ไหว ดังนั้นการวัดผลจากการล็อกดาวน์จึงจะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อการระบาดจบลงแล้วเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แนวทางของสวีเดนก็ทำให้เกิดการสูญเสียเช่นกัน เพราะอัตราการเสียชีวิตต่อประชากร 100,000 คนของสวีเดนนั้นสูงกว่า ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเดนมาร์กถึง 5 เท่า
อัตราการเสียชีวิตต่อประชากร 100,000 คน
อังกฤษ 64.7
อิตาลี 57.4
สวีเดน 50.7
ฝรั่งเศส 44.4
สหรัฐฯ 37.1
เยอรมนี 10.8
นายฮานาจระบุว่า ในสวีเดน ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าได้มีการปกป้องคนกลุ่มเสี่ยงอย่างไร เมื่อเกิดการระบาดใหญ่ในคนวัยหนึ่ง ก็ย่อมยากที่จะปกป้องคนอื่นๆได้ ซึ่งนี่เป็นกรณีการระบาดในบ้านพักคนชราของสวีเดน จนทำให้อัตราการเสียชีวิตสูงมาก และนำไปสู่การสอบสวนความผิดพลาดนี้ของทางการ รวมถึงการสอบสวนในทางอาญาด้วย
นายฮานาจระบุว่า แนวทางของสวีเดนมักถูกมองว่า สวีเดนไม่ทำอะไรเลยในการรับมือ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ เพราะสิ่งสำคัญคือ จุดเริ่มต้นของสถานการณ์ว่าในตอนนั้น แต่ละชาติจะรับมืออย่างไร และดูแลระบบสาธารณสุขอย่างไร การตัดสินใจเร็วในตอนแรกเพื่อชะลอการระบาด ยิ่งเร็วเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งไม่ต้องใช้มาตรการกดดันมาก
ในที่นี่ฮานาจมองว่า แนวทางของสวีเดนนั้นฉลาดกว่าชาติอื่นที่ปล่อยให้มีการระบาดไปแล้ว จนไม่มีทางเลือก ต้องสั่งล็อกดาวน์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม วิธีของสวีเดนก็ทำให้เกิดความสูญเสียต่อคนกลุ่มเสี่ยง เปราะบางเช่นกัน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องยืดหยุ่นและหาแนวทางแก้โดยเร็วในจุดที่ผิดพลาด
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดทั้งหมด ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าวิธีการใดดีกว่ากัน เรื่องนี้ต้องใช้เวลาดูกันยาวๆ
ขณะที่ ดร. เทคเนลล์ย้ำว่า การล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดสามารถยับยั้งไวรัสได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น และไม่ได้ยับยั้งไม่ให้มันกลับมาอีก นอกจากนี้ ล็อกดาวน์ยังมีผลเสียด้วย
เขาแจงว่า ยาทุกชนิดมีผลข้างเคียงเสมอ มาตรการรับมือโรคระบาดก็ย่อมส่งผลลบด้วย ทางการจึงต้องมองวิกฤตสาธารณสุขครั้งนี้ให้กว้างขึ้น และนึกถึงทุกอย่างที่จะเกิดได้ เช่น ความรุนแรงในครอบครัว ความว้าเหว่ และการว่างงาน
ที่สำคัญเขาย้ำเสมอว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจฟันธงเรื่องแนวทางการรับมือของสวีเดนว่าดีหรือไม่ดี
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline