"ลองโควิด" ผลการศึกษาระบุหลังติดเชื้อส่วนใหญ่มีอาการเหล่านี้?
หมอธีระ เปิดผลการศึกษาพบอาการคงค้างที่พบบ่อยนาน 6-12 เดือนหลังจากติดเชื้อโควิดในกลุ่มผู้ป่วย Long COVID ปวดหัว เวียนหัว มึนงง มีปัญหาด้านสมาธิหรือความจำ อาการเหนื่อยล้า/อ่อนเพลีย
วันนี้ (17 ก.ค.65) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” โดยระบุว่า 17 กรกฎาคม 2565...
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 589,541 คน ตายเพิ่ม 683 คน รวมแล้วติดไป 567,004,051 คน เสียชีวิตรวม 6,386,603 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น อิตาลี เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 80.69 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 54.17
...สถานการณ์ระบาดของไทย
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า
จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 11 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย แม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม
...อัพเดต Long COVID
1. Long COVID ในอเมริกา
US CDC ได้ระบุในเว็บไซต์เมื่อ 11 กรกฎาคม 2565 ว่า
ผู้ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยรวมนั้นพบว่ามีปัญหา Long COVID ยาวนานตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไปราว 13.3%
ในขณะที่ผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนั้น จะประสบภาวะ Long COVID ได้มากกว่า 30% เมื่อประเมิน ณ 6 เดือน
2. Long COVID ในเยอรมัน
Bahmer T และคณะ เผยแพร่ผลการวิจัยในวารสารการแพทย์สากล eClinicalMedicine วันที่ 15 กรกฎาคม 2565
ทำการศึกษาในกลุ่มผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในเยอรมัน ตั้งแต่พฤศจิกายน 2563 ถึงกันยายน 2564 จำนวนกว่าพันคนจาก Kiel และ Würzburg/Berlin โดยใช้แบบประเมินระดับอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นหลังการติดเชื้อ (PCS score)
พบว่าอาการคงค้างที่พบบ่อยนาน 6-12 เดือนหลังจากติดเชื้อในกลุ่มผู้ป่วยที่ประสบปัญหา Long COVID ได้แก่ อาการผิดปกติทางระบบประสาท (เช่น ปวดหัว เวียนหัว มึนงง มีปัญหาด้านสมาธิหรือความจำ) (61.5%) อาการเหนื่อยล้า/อ่อนเพลีย (57.1%) และปัญหาในการนอนหลับ (57%)
ผลการวิจัยของเยอรมันนี้ อย่างน้อยก็จะมีประโยชน์ให้เราใช้สังเกตอาการที่พบบ่อยเหล่านี้ ใช้ประเมินตนเองหรือคนใกล้ชิด หากประสบปัญหาติดเชื้อมาก่อน และไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษา
...การใส่หน้ากากระหว่างตะลอนนอกบ้าน
พยายามเว้นระยะห่างจากคู่สนทนา
เลี่ยงที่แออัดหรืออับลม
และการปรับสภาพแวดล้อมให้มีการระบายถ่ายเทอากาศให้ดีขึ้น เช่น เปิดพัดลม เปิดประตูและหน้าต่าง
เป็นสิ่งที่จะช่วยให้เราลดความเสี่ยงระหว่างดำเนินชีวิตประจำวัน ทำมาค้าขาย และศึกษาเล่าเรียนได้
เพราะไวรัสจะเปลี่ยนแปลงสมรรถนะของมันไปเรื่อยๆ โดยยังไม่สามารถทำนายการเปลี่ยนแปลงได้แม่นยำ
สถานการณ์ระบาดของไทยยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง การป้องกันตัวให้ดีและสม่ำเสมอ จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง...
ข้อมูลจาก รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์
ภาพจาก TNN ONLINE / AFP