ถอดหน้ากากอนามัย เรื่องควรรู้! ถอดที่ไหนได้บ้าง กลุ่มใดควรสวมตลอดเวลา
กรมอนามัย ตอบทุกข้อสงสัย ถอดหน้ากากอนามัย เรื่องควรรู้ ก่อนที่ ศบค.จะผ่อนคลาย ซึ่งถอดที่ไหนได้บ้าง กลุ่มใดควรสวมตลอดเวลาเช็กเลย
จากกรณีศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จึงมีมติเห็นชอบให้ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักรเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) 77 จังหวัด และให้ถอดหน้ากากได้เมื่อนอกอาคารหรือที่โล่งแจ้ง โดยเน้นความสมัครใจของแต่ละบุคคล แต่สำหรับกลุ่ม 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ควรสวมหน้ากากเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น รวมทั้งผู้ติดเชื้อ และผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้สวมหน้ากากตลอดเวลา เมื่อจำเป็นต้องอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ กรมอนามัย ได้รวบรวมคำถาม-ตอบ เรื่องที่ทุกคนควรรู้ เมื่อศบค.เตรียมอนุญาตให้ถอดหน้ากากได้ในที่โล่งแจ้ง ซึ่งจะมีผลใช้นับตั้งแต่ประกาศราชกิจจานุเบกษา
ถาม สามารถถอดหน้ากากได้ที่ไหนบ้าง
ตอบ เมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง , อยู่คนเดียว , อยู่ในอาคาร ที่เว้นระยะห่างได้ไม่แออัด และ ระบายอากาศได้ดี , ขณะรับประทานอาหารและเครื่องเดิม ออกกำลังกาย แสดงมหรสพ ถ่ายทำภาพยนตร์
(เมื่อกิจรรมนั้นเสร็จสิ้น ควรสวมหน้ากากทันที)
ถาม บุคคลใด ควรสวมหน้ากากตลอดเวลา
ตอบ กลุ่ม 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ เมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่น , ผู้ติดเชื้อ/ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เมื่อจำเป็น้องอยู่ร่วมกับบุคลอื่น พนักงาน ผู้ให้บริการ ในขณะที่ใช้บริการ
ถาม พักอาศัยในบ้านเดียวกัน ต้องสวมหน้ากากหรือไม่
ตอบ หากไม่มีความเสี่ยงไม่จำเป็นต้องสวม แต่ควรสวมหน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า ตลอดเวลาเมื่ออยู่ร่วมกับผู้ป่วยโควิด-19 หรือ กลุ่ม 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์
ถาม กรณีที่ฉีดวัคซีนแล้วยังต้องสวมหน้ากากหรือไม่
ตอบ หากอยู่ในอาคาร สถานที่แออัด รวมกลุ่มจำนวนมาก ควรสวมหน้ากากแม้ฉีดวัคซีนแล้ว
ถาม ควรสวมหน้ากากหรือไม่ หากโดยสารเครื่องบิน รถไฟ หรือ ขนส่งสาธารณะ
ตอบ ควรสวมหน้ากาก เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ปิดและต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น
สำหรับมติ ที่ประชุม ศบค. ที่สำคัญมีดังนี้ มีผลนับตั้งแต่ประกาศราชกิจจานุเบกษา/มีผลได้ทันที
1) พื้นที่สถานการณ์ ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์เป็นระดับเฝ้าระวัง (สีเขียว) ทั้งประเทศ ยกเลิกการกำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว
2) มาตรการการใส่หน้ากาก ควรสวมหน้ากาก และให้สวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่แออัด สถานที่ปิด หรือมีการอยู่ใกล้ชิดกับคนจำนวนมาก
3) การบริโภคสุราหรือแอลกอฮอล์ในร้านอาหารในพื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวัง ให้เปิดบริการได้ตามปกติโดยต้องปฏิบัติมาตรการป้องกันโรค รวมทั้งกฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง
4) สถานประกอบการประเภทสถานบันเทิง ฯลฯ เปิดให้บริการและให้ผู้รับบริการดื่มแอลกอฮอล์ได้ในพื้นที่เฝ้าระวัง โดยเปิดให้บริการตามกฎหมายเดิมกำหนด
5) การเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว ผ่อนคลายให้การดำเนินการเป็นไปตามปกติ
6) การคัดกรองอุณหภมิ ไม่มีความจำเป็นต้องคัดกรองอุณหภูมิในอาคารสถานที่ (อาจให้มีการคัดกรองอุณหภูมิในสถานที่เสี่ยงหรือพื้นที่ระบาด)
7) การเว้นระยะห่าง แนะนำให้มีการเว้นระยะห่างตามความเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่โรค
8) มาตรการการรวมกลุ่ม ตรวจคัดกรอง ATK กรณีเป็นผู้ป่วยสงสัยที่มีอาการทางเดินหายใจ หากมีการรวมกลุ่มมากกว่า 2,000 คน ขอให้แจ้งทางคกก.โรคติดต่อจ./กทม.ทราบ เพื่อเฝ้าระวังการระบาด
ข้อมูลจาก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ภาพจาก AFP