TNN ผลวิจัย ชี้ ผู้ป่วยโควิดเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตันรุนแรงนานถึง 6 เดือน

TNN

เกาะติด COVID-19

ผลวิจัย ชี้ ผู้ป่วยโควิดเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตันรุนแรงนานถึง 6 เดือน

ผลวิจัย ชี้ ผู้ป่วยโควิดเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตันรุนแรงนานถึง 6 เดือน

แพทย์จุฬาฯ ชี้ภาวะลองโควิดส่งผลกระทบระยะยาวต่อการดำรงชีวิต ขณะที่ผลวิจัยในต่างประเทศชี้ว่า ผู้ป่วยโควิด-19 มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันรุนแรงเป็นเวลานานถึง 6 เดือน

วันนี้ (8 เม.ย.65) ผลวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์บริติช เมดิคอล เจอร์นัล (British Medical Journal) ชี้ว่า ผู้ป่วยโควิด-19 มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ที่จะเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันรุนแรงเป็นเวลานานถึง 6 เดือน หลังติดเชื้อ ซึ่งรวมถึงผู้ติดเชื้อที่มีอาการป่วยเล็กน้อยด้วย

โดยคณะนักวิจัยได้เปรียบเทียบข้อมูลชาวสวีเดน 1 ล้านคน ที่ติดเชื้อโควิด-19ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2563-เดือนพฤษภาคมปี 2564 กับ กลุ่มควบคุมกว่า 4 ล้านคนที่ไม่ติดเชื้อ พบว่าผู้ป่วยโควิดมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดเป็นเวลานานถึง 6 เดือนหลังติดเชื้อ

อีกทั้งยังมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก ซึ่งมักเกิดขึ้นที่ขา เป็นเวลานานถึง 3 เดือนหลังติดเชื้อ

นอกจากนี้ ผลวิจัยยังชี้ว่า ผู้ป่วยโควิดมีความเสี่ยงต่อภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดสูงถึง 33 เท่า และเสี่ยงต่อภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ ส่วนลึกถึง 5 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ไม่ติดเชื้อ

ด้าน รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่องภาวะ Long COVID โดยระบุว่า สหรัฐอเมริกา ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการศึกษาวิจัย เพื่อหาทางรับมือปัญหา Long COVID ซึ่งพบมากถึงร้อยละ 7 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ โดยจะส่งผลกระทบการดำรงชีวิตและการทำงาน 

ในขณะเดียวกัน ข้อมูลจากสหราชอาณาจักร ได้รายงานปัญหา Long COVID ในประชากรที่สูงราว 1 ล้าน 7 แสนคน แม้อัตราการเกิดภาวะดังกล่าวจะดูน้อยกว่าสหรัฐฯ แต่จำนวนผู้ป่วยที่เกิดขึ้นก็ถือว่ามหาศาล

บทเรียนของต่างประเทศเป็นเหมือนเสียงระฆัง ที่เตือนให้ไทยเราตระหนักถึงความสำคัญของมาตรการควบคุมป้องกันโรค เพราะหากติดเชื้อจะไม่จบแค่การรักษา แต่จะเกิดผลกระทบระยะยาวจาก Long COVID บั่นทอนการดำเนินชีวิต การทำงาน และทำให้เสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง หรือภาวะทุพลภาพ เป็นภาระค่าใช้จ่ายทั้งต่อผู้ป่วย ครอบครัว และสังคม.


ภาพจาก แฟ้มภาพ AFP

ข่าวแนะนำ