กรมอนามัยแนะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น อย่างน้อย 7 วันก่อนเดินทางสงกรานต์

วันนี้ ( 25 มี.ค. 65 )นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย คาดการณ์ว่า การระบาดของโควิด-19 หลังสงกรานต์จะเพิ่มขึ้นทั้งรายบุคคลและกลุ่มก้อนจากการเคลื่อนย้ายของผู้คน และการรวมกลุ่มทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งการจะควบคุมต้องอาศัยความร่วมมือของผู้ประกอบการและประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน แต่เชื่อว่าการระบาดจะอยู้ในระดับคาดการณ์ไว้และสามารถรับมือได้ มีทรัพยากรสาธารณสุขเพียงพอกับผู้ป่วยทุกกลุ่มอาการ 

ด้านนายสมชาย ตู้แก้ว ผู้อำนวยการกองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กรมอนามัย  เปิดเผยว่า การจัดงานเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้มีปัจจัยที่เอื้อต่อการจัดงาน คือ ประชาชนได้รับวัคซีนครอบคลุมมากขึ้น เชื้อไวรัสลดความรุนแรงลง มีการผ่อนคลานกิจกรรมต่างๆมากขึ้น และการเตรียมพร้อมปรับวิถีชีวิตเข้าสู่การประกาศให้เป็นโรคโรคประจำถิ่น 

ขณะที่กิจกรรมที่จัดในเทศกาลสงกรานต์ จะแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ  กิจกรรมระดับครอบครัวการทำกิจกรรมร่วมกัน ต้องจัดพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดี ผู้ร่วมกิจกรรมควรสวมหน้ากากตลอด งดกิจกรรมที่สัมผัสใกล้ชิด ไม่ใช้สิ่งของร่วมกันและใช้เวลาจัดกิจกรรมให้สั้นที่สุด

กิจกรรมระดับชุมชน มีผู้ร่วมไม่เกิน 200 คน  ต้องขออนุญาตคณะกรรมการโรคติดต่อระดับตำบลหรืออำเภอให้รับทราบเพื่อจัดกิจกรรมให้เหมาะสม โดยผู้ร่วมงานไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน และสวมหน้ากากตลอดเวลา 

ส่วนการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ หรืออีเวนต์ ต้องขออนุญาตคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัดถึงเงื่อนไขต่างๆ โดยให้จัดสงกรานต์ตามประเพณีแต่ละท้องถิ่น ห้ามปาร์ตี้โฟม ประแป้ง และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 

โดยการจัดกิจกรรมเพื่อความปลอดภัยต้องเตรียมความพร้อม ประชาชนทั่วไป ควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ไม่น้อยกว่า  7 วันก่อนรวมกลุ่ม ความตรวจ ATK หากมีอาการ หรือ ภายใน72 ชม.ก่อนรวมกลุ่ม ส่วนผู้จัดงาน ต้องเคร่งครัดมาตรการป้องกันโควิด

นอกจากนี้หลังสงกรานต์ควรสังเกตอาการตัวเอง 7-10 วัน หากพบว่ามีอาการหรือเป็นกลุ่มเสี่ยงต้องตรวจด้วย ATK ทันทีและตรวจซ้ำเมื่อครบ 7 วัน และเลี่ยงพบปะผู้คนโดยไม่จำเป็น 

ข้อมูลจาก : กรมอนามัย 

ภาพจาก :  AFP