WHO แนะใช้ “ยาโมลนูพิราเวียร์” ในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงสูง
องค์การอนามัยโลกแนะใช้ “ยาโมลนูพิราเวียร์” ในผู้ป่วยโควิดกลุ่มเสี่ยงสูง แต่ไม่เหมาะกับกลุ่มอายุน้อยและหญิงตั้งครรภ์
วันนี้ (3 มี.ค. 65) คณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก (WHO) สนับสนุนให้ใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ของบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะมีอาการป่วยขั้นรุนแรง
คำแนะนำดังกล่าวมาจากข้อมูลชุดใหม่จากการทดลองทางคลินิกทั้ง 6 ครั้งซึ่งมีผู้ป่วย 4,796 รายเข้าร่วม โดย WHO Guideline Development Group (GDG) ซึ่งเป็นคณะผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศที่ทำหน้าที่ให้คำแนะนำต่างๆ แก่ WHO นั้น ได้แนะนำการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์อย่างมีเงื่อนไขสำหรับผู้ป่วยที่มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เข่น ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ, ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน, ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
อย่างไรก็ดี GDG ไม่แนะนำให้ใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ในกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 ที่อายุยังน้อย และไม่แนะนำให้ใช้กับหญิงตั้งครรภ์หรือหญิงที่ต้องให้นมบุตร เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดความผิดปกติกับทารกในครรภ์ ตามที่ปรากฏในผลการทดลองในสัตว์
ทั้งนี้ คำแนะนำของ GDG มีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถรักษาผู้ป่วยได้เต็มที่ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปเร็ว เช่นการระบาดของโควิด-19
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า WHO กำลังเตรียมออกคำแนะนำสำหรับยาแพ็กซ์โลวิดของบริษัทไฟเซอร์ด้วยเช่นกัน โดยยาชนิดนี้ของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเจ็บป่วยขั้นรุนแรงจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล รวมถึงการเสียชีวิตอยู่ที่เกือบ 90% เมื่อเทียบกับยาโมลนูพิราเวียร์ซึ่งป้องกันได้ประมาณ 30%
นับตั้งแต่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติให้ใช้ยาโมลนูพิราเวียร์เมื่อเดือนธ.ค. ปีที่แล้ว ความต้องการยาโมลนูพิราเวียร์ในผู้ป่วยโควิด-19 กลับลดลงเนื่องจากประสิทธิภาพการป้องกันที่ต่ำเมื่อเทียบกับยาอื่น ทั้งยังพบปัญหาด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นในบางกลุ่ม
ภาพจาก : AFP