เกาหลีใต้เผยผลการศึกษาเชื้อโอมิครอนรุนแรงน้อยกว่าเดลต้าหลายเท่า
เกาหลีใต้เผยผลการศึกษาพบว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน มีความรุนแรงน้อยกว่าเชื้อสายพันธุ์เดลต้าหลายเท่า
วันนี้ (23ก.พ.65) ผลการศึกษาของสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคเกาหลีใต้ หรือ KDCA ซึ่งทำการศึกษาจากผู้ติดเชื้อจำนวน 67,200 คนตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว พบว่าความรุนแรงของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ทำให้มีอัตราผู้ป่วยอาการรุนแรงและผู้เสียชีวิตเฉลี่ยอยู่ที่ 0.38 % และ 0.18 % ตามลำดับ
เมื่อเทียบกับการติดเชื้อเดลต้าซึ่งมีอัตราการป่วยหนักที่ 1.4 % และเสียชีวิต 0.7 % โดยจำนวนผู้ป่วยอาการรุนแรงนับจากจำนวนผู้ป่วยที่ต้องอยู่ในห้องไอซียู
จากการศึกษายังพบด้วยว่า 56 % จากผู้เสียชีวิต 1,073 คนในช่วง 5 สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดเพียงเข็มเดียว และ 94 % ของผู้เสียชีวิตเป็นคนที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป
KDCA ระบุว่า เชื้อโอมิครอนกลายเป็นเชื้อสายพันธุ์หลักที่ระบาดในเกาหลีใต้ในช่วงปลายเดือนมกราคมและเพิ่มจำนวนมากขึ้นถึง 90 % ของผู้ติดเชื้อในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ และในขณะนี้กำลังแพร่ระบาดหนัก
วันนี้ทางการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงถึง 171,452 คน นับเป็นครั้งแรกที่จำนวนผู้ติดเชื้อสูงกว่า 170,000 คน และยังอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่จำนวนผู้ป่วยหนักและผู้เสียชีวิตมีไม่มากนัก
ทางการระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับที่สามารถรับมือได้ และขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ก็ขอให้ทุกคนระมัดระวังตัวเองการ์ดอย่าตก และปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคที่ทางการกำหนดเอาไว้
ขณะเดียวกัน กระทรวงความปลอดภัยอาหารและยาของเกาหลีใต้ เผยว่าได้อนุมัติการใช้วัคซีนโควิดของ Pfizer ในเด็กอายุ 5-11 ปีแล้ว โดยจะฉีดวัคซีนด้วยปริมาณโดสที่ลดลงเหลือหนึ่งในสามของวัคซีนที่ฉีดในประชาชนทั่วไป และเว้นระยะระหว่างเข็มที่หนึ่งกับเข็มที่สองนาน 3 สัปดาห์ ส่วนเด็กที่มีภูมิคุ้มกันลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังฉีดวัคซีนครบสองโดสสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่สามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนครบสองโดสไปแล้ว 4 สัปดาห์
ภาพจาก รอยเตอร์