TNN online เปิด 6 ข้ออ้าง ‘สายเรียกเข้าจากมิจฉาชีพ’ เจอแบบนี้ให้วางสายอย่าคุย

TNN ONLINE

เกาะติด COVID-19

เปิด 6 ข้ออ้าง ‘สายเรียกเข้าจากมิจฉาชีพ’ เจอแบบนี้ให้วางสายอย่าคุย

เปิด 6 ข้ออ้าง ‘สายเรียกเข้าจากมิจฉาชีพ’ เจอแบบนี้ให้วางสายอย่าคุย

เปิด 6 ข้ออ้างสายเรียกเข้าจากมิจฉาชีพใช้สารพัดวิธีหลอกเหยื่อให้โอนเงิน เจอแบบนี้วางสายอย่าพูดคุยด้วย

วันนี้ ( 20 ก.พ. 65 )เพจเฟซบุ๊กของ ตำรวจสอบสวนกลาง ได้เผยแพร่ข้อมูลจาก ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ถึงกลโกงของบรรดามิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มักก่อความรำคาญโทรหาเหยื่อเพื่อหลอกลวงให้โอนเงิน ซึ่งปัจจุบันยังมีผู้หลงเชื่ออยู่เป็นจำนวนไม่น้อย โดยมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะสุ่มเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อหาเหยื่อ หลังจากนั้นจะพูดคุยโน้มน้าว หรือข่มขู่ให้เหยื่อตกใจ หลงเชื่อ และโอนเงินให้มิจฉาชีพ โดยข้ออ้างส่วนใหญ่ที่มิจฉาชีพมักใช้จะหลอกเหยื่อมีดังนี้

1. บัญชีเงินฝากถูกอายัด/หนี้บัตรเครดิต : มิจฉาชีพจะขออายัดบัญชีเงินฝากของเหยื่อ อ้างว่าเป็นหนี้บัตรเครดิต หลอกให้เหยื่อตกใจ รีบโอนเงินมาให้

2. บัญชีเงินฝากพัวพันกับการค้ายาเสพติด หรือการฟอกเงิน : มิจฉาชีพ จะอ้างว่าบัญชีเงินฝากของเหยื่อเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย หลอกให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีที่เตรียมไว้ โดยอ้างว่าจะทำการตรวจสอบ

3. เงินคืนภาษี : มิจฉาชีพจะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร แจ้งเหยื่อว่าได้รับเงินคืนภาษี โดยให้ยืนยันรายการตามคำบอกที่ตู้เอทีเอ็ม ซึ่งแท้จริงแล้วกลับเป็นขั้นตอนที่มิจฉาชีพหลอกให้เหยื่อโอนเงิน

4. โชคดีได้รับเงินรางวัล : มิจฉาชีพจะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทต่างๆ แจ้งเหยื่อว่าได้รับเงินรางวัลหรือของรางวัลที่มีมูลค่าสูง หลอกให้เหยื่อโอนเงินค่าภาษีมาให้ก่อนรับรางวัล

5. ข้อมูลส่วนตัวหาย : มิจฉาชีพจะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สถาบันการเงิน อ้างว่าทำข้อมูลของเหยื่อสูญหาย เพื่อขอข้อมูลของเหยื่อใหม่ หลังจากนั้นจะนำไปปลอมแปลงหรือใช้บริการทางการเงินแทน

6. โอนเงินผิด : มิจฉาชีพจะติดต่อไปยังสถาบันการเงินของเหยื่อ เพื่อขอสินเชื่อแทนเหยื่อ เมื่อสถาบันการเงินอนุมัติและโอนเงินเข้าบัญชีให้เหยื่อแล้ว มิจฉาชีพจะโทรศัพท์ไปหาเหยื่อ อ้างว่าโอนเงินผิดบัญชี หลอกให้เหยื่อโอนเงินดังกล่าวคืนให้

เปิด 6 ข้ออ้าง ‘สายเรียกเข้าจากมิจฉาชีพ’ เจอแบบนี้ให้วางสายอย่าคุย




ข้อมูลจาก : ตำรวจสอบสวนกลาง/ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย

ภาพจาก : AFP

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง