หมอประสิทธิ์ ชี้ยังไม่มีหลักฐาน โอมิครอน "BA.2" รุนแรงกว่าสายพันธุ์หลัก!
"หมอประสิทธิ์" ชี้การพบสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน "BA.2" ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานหรือข้อบ่งชี้ใดที่ระบุชัดเจน ว่ามีความรุนแรงที่มากกว่าสายพันธุ์หลัก
วันนี้( 26 ม.ค.65) ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุถึงโอกาสที่ โควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน จะมีการกลายพันธุ์ของเชื้อที่รุนแรงกว่านี้หรือไม่คงเป็นไปได้ยาก
ส่วนการพบสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน BA.2 นั้น ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐาน หรือข้อบ่งชี้ใดที่ระบุชัดเจน ว่ามีความรุนแรงที่มากกว่าสายพันธุ์หลัก ทั้งนี้สายพันธุ์หลักมีการกลายพันธุ์ 3 4 สายพันธุ์ย่อย แต่สุดท้ายหากการกลายพันธุ์นั้นไม่ได้ก่อเกิดความรุนแรงหรือแพร่กระจายเร็วขึ้น สายพันธุ์ย่อนนั้นก็จะค่อยๆหายไป เหมือนเช่นก่อนหน้านี้ที่มีการพูดถึงสายพันธุ์มิว สายพันธุ์แลมป์ด้าที่สุดท้าย ก็หายไปเนื่องจากไม่ได้แพร่ระบาดเร็ว ถึงอย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์การกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดอย่างใกล้ชิดอยู่
ขณะเดียวกันการฉีดวัคซีนโควิด-19 ข้อมูลจากต่างประเทศ ยืนยันแล้วว่า 2 เข็มไม่เพียงพอต่อการสู้กับโควิด สายพันธุ์โอมิครอน
ส่วนที่ประเทศไทยจะเริ่มฉีดวัคซีน โควิด-19 ในเด็กเล็ก 5-11 ปี ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ ประสิทธิ์ ระบุว่า เป็นธรรมดา หากผู้ปกครองจะมีความกังวลในการให้บุตรหลานเข้ารับวัคซีนโควิด หากอยู่ในประเทศอเมริกาการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กเล็กตอนนี้จำกัดให้เป็นวัคซีนไฟเซอร์ เพียงชนิดเดียว ซึ่งเป็นวัคซีน สำหรับเด็กฝาสีส้ม
อย่างไรก็ตามวัคซีนมีความปลอดภัยระดับนึง เพื่อป้องกันการติดเชื้อเป็นวงกว้าง หากอนาคตมีการเปิดเรียน
ภาพโดย ผู้สื่อข่าว TNN ช่อง 16