ประเทศยากจนทิ้งวัคซีนโควิด 100 ล้านโดสในเดือนธ.ค.เพราะใกล้หมดอายุ

วันนี้ ( 14 ม.ค. 65 )เจ้าหน้าที่ขององค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือยูนิเซฟ แถลงในวันพฤหัสบดีว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ประเทศยากจนหลายประเทศ ต้องทิ้งวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดสที่แจกจ่ายและสนับสนุนโดยโครงการ COVAX ซึ่งสาเหตุหลักมาจากวัคซีนใกล้วันหมดอายุ จำนวนดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการฉีดวัคซีนแม้ว่าทั่วโลกจะมีการผลิตและแจกจ่ายวัคซีนเพิ่มมากขึ้น โดย COVAX ได้รับมอบวัคซีนเกือบ 1,000 ล้านโดสและแจกจ่ายให้ประเทศต่าง ๆ เกือบ 150 ประเทศ

เอตเลวา คาดิลลี ผู้อำนวยการฝ่ายจัดหาของยูนิเซฟ กล่าวต่อสมาชิกรัฐสภายุโรปว่า วัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดสถูกปฏิเสธเฉพาะในเดือนธันวาคมเดือนเดียว ซึ่งเหตุผลหลักของการปฏิเสธ คือการส่งมอบวัคซีนที่มีอายุการเก็บรักษาสั้น จนไม่สามารถใช้ได้ทันเวลา

ทั้งนี้ ประเทศยากจน ยังประสบปัญหาความล่าช้าในการส่งมอบวัคซีนด้วย เพราะพวกเขาไม่มีที่เก็บรักษาที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมทั้งการขาดแคลนห้องเย็นที่มีอุณหภูมิเหมาะกับการเก็บรักษาวัคซีน อย่างไรก็ตาม ยูนิเซฟ ไม่ได้ชี้แจงว่า มีวัคซีนจำนวนทั้งหมดเท่าไหร่ที่ต้องถูกทิ้งไปจนถึงตอนนี้

ด้านองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า ในเดือนมกราคม มีประชากรร้อยละ 67 ในประเทศร่ำรวย ได้รับวัคซีนครบแล้ว แต่มีเพียงร้อยละ 8 เท่านั้นในประเทศยากจนกว่า ได้รับวัคซีนเพียงเข็มแรก

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่า มีวัคซีนกว่า 1 ล้านโดสหมดอายุในไนจีเรียเมื่อเดือนพฤศจิกายนโดยไม่ได้ใช้งาน 

ภาพจาก : AFP