TNN หมอเฉลิมชัย แนะฟังหูไว้หู "เดลตาครอน" มีจริงหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป!

TNN

เกาะติด COVID-19

หมอเฉลิมชัย แนะฟังหูไว้หู "เดลตาครอน" มีจริงหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป!

หมอเฉลิมชัย แนะฟังหูไว้หู เดลตาครอน มีจริงหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป!

หมอเฉลิมชัย แนะฟังหูไว้หูปมไวรัสสายพันธุ์ใหม่ "เดลตาครอน" รอฟังความชัดเจนและการยืนยันจากหน่วยงานในระดับนานาชาติอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

วันนี้( 6 ม.ค.65) นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chalermchai Boonyaleepun เกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ "โอมิครอน

โดยระบุว่า "ฟังหูไว้หู !! ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ Deltacron มีจริงหรือไม่ จะต้องติดตามข้อมูลเพิ่มเติมกันต่อไป

ขณะนี้มีรายงานข่าวเบื้องต้น จากสำนักข่าวต่างประเทศบางแห่ง ว่าพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ คือเป็นสายพันธุ์เดลต้า แต่มีสารพันธุกรรมของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนเข้ามาปน ทำให้ตั้งชื่อใหม่เป็นไวรัส Deltacron : Delta+Omicron ซึ่งจำเป็นที่จะต้องได้รับการยืนยันจากหน่วยงานระหว่างประเทศ หรืออย่างน้อยรอให้องค์การอนามัยโลกออกมารับรองเสียก่อน

แหล่งข่าวดังกล่าวได้ อ้างถึง Professor L.Kostrikis ศาสตราจารย์ทางด้านชีววิทยาของมหาวิทยาลัยไซปรัส ซึ่งเป็นประเทศขนาดเล็กในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนใกล้กับตุรกี ว่าเป็นผู้ค้นพบไวรัสและตั้งชื่อใหม่ว่า Deltacron โดยอ้างว่าพบแล้วถึง 25 ราย แต่ก็บอกด้วยว่ายังเร็วเกินไปที่จะบอกถึงความสามารถด้านต่างๆทั้ง 3 มิติของไวรัสใหม่นี้ รวมทั้งได้ส่งข้อมูลไปที่ GSAID ซึ่งเป็นแหล่งรวมรหัสสารพันธุกรรมของไวรัสระดับโลกแล้ว

ในขณะเดียวกัน Professor T.Peacock นักไวรัสวิทยาจากคอลเลจลอนดอน ( U. College London ) ได้ให้ความเห็นว่า จากลักษณะของสารพันธุกรรมดังกล่าว น่าจะเป็นการปนเปื้อนระหว่างการถอดรหัสไวรัสในห้องปฏิบัติการ และไม่ค่อยจะเหมือนไวรัสสายพันธุ์ใหม่มากนัก โดยมีลักษณะเป็นไวรัสเดลตาเดิมเป็นหลัก แล้วมีสารพันธุกรรมบางส่วนของโอมิครอนเข้าไปปน การปนเปื้อนในห้องปฏิบัติดังกล่าว ถึงแม้จะไม่ได้พบบ่อยนัก แต่ก็สามารถพบได้

Professor Peacock กล่าวว่า การแข่งกันรายงานเพื่อเป็นเจ้าแรกของสำนักข่าวต่างๆ อาจจะทำให้สาธารณะเข้าใจคลาดเคลื่อนได้

ผู้เขียนคิดว่า เรื่องนี้ต้องฟังหูไว้หูในเบื้องต้น เพราะการแถลงจากนักวิทยาศาสตร์เพียงคนเดียว และยังไม่ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานในระดับนานาชาติที่เชื่อถือได้ อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด แต่ถ้ายืนยันแล้วว่าเป็นจริงในภายหลัง ก็จะต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไปว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว จะมีความสามารถในการแพร่ระบาด  มีความรุนแรงในการเกิดโรค และการดื้อต่อวัคซีนมากน้อยเพียงใด

แต่ในขณะนี้ควรรอฟังความชัดเจน และการยืนยันจากหน่วยงานในระดับนานาชาติอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งเสียก่อน"






ภาพจาก AFP/Chalermchai Boonyaleepun

ข่าวแนะนำ