เปิดเงื่อนไข Test&Go เพิ่มเติม -ได้รับอนุมัติแล้วเข้าไทยได้ตามเดิม ต้องปฏิบัติอย่างไร?
ศบค.ให้ผู้ลงทะเบียน Test&Go ที่อนุมัติแล้วเข้าไทยได้ตามเดิม และตามวันเวลาที่ขออนุมัติ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
วันนี้( 8 ม.ค.65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามมติ ศบค. เมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา ให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าไทยในรูปแบบ "Test and Go" ที่ได้รับอนุมัติไว้แล้ว ยังสามารถเดินทางเข้ามาได้ตามมาตรการที่กำหนด และตามวันเวลาที่ขออนุมัติ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้กำชับทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ ปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรม สถานที่เสี่ยงต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับมาตรการให้สอดคล้องกับพัฒนาการของการแพร่ระบาดในประเทศและทั่วโลก
โดยล่าสุดคนไทยและชาวต่างชาติที่ได้ลงทะเบียน รวมทั้งที่ได้รับการอนุมัติแล้วประมาณ 2 แสนราย มีบางส่วนได้เดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว และส่วนที่เหลือจะทยอยเดินทางเข้าประเทศไทยหลังจากนี้ ซึ่ง ศบค. ได้มีรายละเอียดและข้อปฏิบัติต่างๆเพิ่มเติม ดังนี้
1. การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.65 - พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวยังคงเดิม ได้แก่ พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวทั้งจังหวัดจำนวน 8 จังหวัด และเป็นพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวบางพื้นที่ 18 พื้นที่/จังหวัด ซึ่งใช้มาตรการเดียวกับพื้นที่เฝ้าระวัง - ส่วนที่เหลือ ปรับเป็นพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) รวม 69 จังหวัด ได้แก่ พื้นที่ทั้งจังหวัดจำนวน 51 จังหวัด และบางพื้นที่จำนวน 18 พื้นที่/จังหวัด โดยใช้มาตรการพื้นที่ควบคุม (สีส้ม)
2. เพิ่มมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว สำหรับบริโภคสุราในร้านอาหาร - ร้านอาหารปิดตามเวลาที่กำหนด และจำกัดเวลาบริโภคสุรา ไม่เกิน 21.00 น. - จำกัดประเภทร้านอาหารที่บริโภคสุราได้ ต้องผ่าน "SHA Plus" หรือ Thai Stop COVID 2 Plus เท่านั้น
3. ขยายเวลา "Work From Home" ออกไปถึงวันที่ 31 ม.ค. 65 ทั้งนี้ ต้องไม่กระทบต่อบริการประชาชน และการดำเนินงานขององค์กร
4. สถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ เต็มรูปแบบ ยังคงงดการเปิดให้บริการ แต่สามารถขอเปิดดำเนินการในรูปแบบร้านอาหารได้ โดยให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. ตรวจประเมิน และพิจารณาอนุญาตก่อนการเปิดกิจการ และจัดระบบกำกับติดตามอย่างเคร่งครัด
5. ยกระดับมาตรการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร - ระงับการลงทะเบียนประเภท "Test and Go" ออกไปก่อน โดยจะมีการประเมินและพิจารณาอีกครั้ง - ผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในรูปแบบ "Test and Go" ที่ได้รับอนุมัติไว้แล้วยังสามารถเดินทางเข้ามาได้ตามมาตรการที่กำหนด และตามวันเวลาที่ขออนุมัติไว้ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้จะมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะ โดยในวันที่ 15 ม.ค. 65 จะมีการประเมินสถานการณ์กันอีกครั้ง - เปิดพื้นที่ Sandbox ที่อนุญาตให้ผู้ที่ต้องการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพิ่มเติมจาก จ.ภูเก็ต ได้แก่ จ.สุราษฏธานี (เฉพาะ เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพงัน) จ.กระบี่ และ จ.พังงา ทั้งจังหวัด
6.การยกระดับความพร้อมของหน่วยงานเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด ดังนี้ -การตรวจกิจการกิจกรรมที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะ การลักลอบทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ร้านอาหารที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ และการควบคุมผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร -ยกระดับการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดและการรักษาพยาบาล ตั้งแต่ระบบการรับแจ้งเหตุ (Call Center) การคัดกรอง/คัดแยกผู้ป่วย และการรักษาตามระดับความรุนแรงของอาการ -การเตรียมความพร้อม รพ.หลัก รพ.สนาม CI HI Hospitel และ Hotel Isolation และการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย - ยกระดับการเตรียมความพร้อมของศูนย์บริหารสถานการณ์ (EOC) ระดับพื้นที่ (กทม./จังหวัด) เพื่อให้ตอบสนองการแก้ไขปัญหาในทุกมิติได้อย่างรวดเร็ว - เร่งกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ยืนยันว่าประเทศไทยดำเนินมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มข้น ภายใต้ V-U-C-A รณรงค์การฉีดวัคซีนและวัคซีนเข็มกระตุ้น เน้นประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแบบครอบจักรวาล Universal Prevention สถานประกอบการ สถานที่ท่องเที่ยว ยึดการดำเนินการ Covid Free Setting รวมถึงการคัดกรองตนเองด้วย "ATK" อย่างสม่ำเสมอ และให้ติดตามประเมินสถานการณ์จาก ศบค. ในทุกระยะต่อไป
ที่มา : สำนักนายกรัฐมนตรี
ภาพประกอบ : AFP , TNN Online