กรมวิทย์ฯ เผยการระบาดโควิดในไทยยังเป็นเดลต้า ส่วนโอมิครอนพบเพิ่มขึ้น
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ย้ำ การระบาดโควิดในไทย ยังคงเป็นสายพันธุ์เดลต้า ขณะที่ "โอมิครอน" พบสัดส่วนเพิ่มขึ้น ส่วนชุดตรวจโควิด ATK ยังตรวจเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ได้
วันนี้ (7 ม.ค.65) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า ถึงการตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจโควิด-19 Antigen Test Kit หรือ ATK ว่า ยังคงเป็นเครื่องมือวินิจฉัยการตรวจหาเชื้อโควิดเบื้องต้น แต่หากพบผลบวกก็จะต้องตรวจยืนยันด้วย RT-PCR อีกครั้ง
โดยในชุดตรวจ ATK มีโปรตีนค่อนข้างเสถียร สามารถตรวจหาเชื้อได้ แต่ยังไม่มีชุดตรวจชนิดใดที่รับรองว่าตรวจแยกสายพันธุ์ได้
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบายว่า การตรวจด้วยชุดตรวจ ATK จะมีวิธีการตรวจที่ต้องละเอียดในการเก็บตัวอย่าง โดยชุดตรวจ ATK มี 2 รูปแบบ คือ ใช้โดยบุคลกรทางการแพทย์ กับ ใช้โดยประชาชนทั่วไป โดยแนะนำให้ประชาชน ใช้ไม้ด้ามสำลี แหย่โพร่งจมูกลึก 2-3 เซนติเมตร ให้รู้สึกว่าชนผนังจมูก จากนั้นปั่นข้างละ 5-6 รอบโดยปั่นทั้งสองข้าง
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า ใช้ชุดตรวจ ATK เก็บตัวอย่างเชื้อในช่องคอ ว่า เบื้องต้นการเก็บตัวอย่างเชื้อในโพรงจมูก กับช่องคอ เป็นจุดที่เชื่อมกันอยู่แล้ว โดยการเก็บตัวอย่างเนื้อที่ช่องคอหักเก็บไม่ถูกวิธีอาจจะเกิดผลข้างเคียงอื่นๆ ตามมาได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนทำตามคำแนะนำการตรวจเชื้อที่ระบุไว้ในชุดตรวจจะดีกว่า
ส่วนการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ในประเทศ ตอนนี้ยืนยันยังคงเป็นสายพันธุ์เดลต้าที่ครองอัตราการแพร่ระบาดมากกว่าโอมิครอน แต่ในช่วงที่ผ่านมาจากการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทย ได้มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย RT-PCR ทุกราย และได้มีการส่งตรวจยืนยันสายพันธุ์ พบเป็นโอมิครอนเกือบทั้งหมด โดยแนวโน้มสายพันธุ์โอมิครอนมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
ส่วนที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 บอกว่าตัวเองติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนนั้น อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า ไม่อยากให้ประชาชนแยกว่าติดโควิดสายพันธุ์ไหน เนื่องจากการรักษายังคงเหมือนเดิมคือรักษาไวรัสโควิด ถึงแม้สายพันธุ์โอมิครอนอาการจะน้อยไม่รุนแรง แต่ก็ขออย่าให้ประมาท หากมีอาการเข้าข่าย ไข้ ไอ เจ็บคอ หรือมีอาการป่วย จากระบบทางเดินหายใจ ให้ตรวจด้วยชุดตรวจคัดกรองโควิด-19 ATK ได้ทันที.
ข้อมูลและภาพจาก ทีมข่าว TNN ช่อง 16