ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำอ่านด่วน! เปิดข้อแนะนำฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3
ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ออกคำแนะนำฉีดวัคซีนโควิด เข็ม 3 สำหรับผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ
วันนี้( 23 ธ.ค.64) ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ออกข้อแนะนำเรื่องการให้วัคซีนโควิดเข็ม 3 แก่ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ โดยระบุว่า ผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันต่ำ มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่รุนแรง และมีโอกาสเสียชีวิตสูง จึงควรได้รับวัคซีนโควิด-19 ให้ครบ 2 เข็มโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยเหล่านี้มักมีการตอบสนองต่อวัคซีนโควิด-19 ไม่ดี แม้จะได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว จึงมีความจําเป็นต้องได้รับวัคซีนเข็มที่ 3
ซึ่งมีคําแนะนําสําหรับผู้ป่วยดังกล่าวในหลายประเทศ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย โดยคณะอนุกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาและป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ร่วมกับ สมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทยและสมาคมรูมาติซั่มแห่งประเทศไทย จึงพิจารณาจากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันออกข้อแนะนําการให้วัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 แก่ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เพื่อให้ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำได้รับวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติม ดังนี้
1. ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ได้แก่
1.1 ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ
1.2 ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบหรือแพ้ภูมิตนเองที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน (immunosuppressive drugs) ดังต่อไปนี้
- Corticosteroids
prednisolone ≥10 มก./วัน >4 สัปดาห์ ในช่วง 3 เดือนก่อนที่จะรับวัคซีน
prednisolone ≥20 มก./วัน >10 วัน ในช่วง 1 เดือนก่อนที่จะรับวัคซีน
prednisolone ≥40 มก./วัน >1 สัปดาห์ ในช่วง 1 เดือนก่อนที่จะรับวัคซีน
- ยากดภูมิคุ้มกัน ได้แก่ methotrexate, azathioprine, mycophenolate mofetil, leflunomide, cyclophosphamide หรือ cyclosporine ในช่วง 3 เดือนก่อนที่จะให้วัคซีน
- ยาชีววัตถุและยาสังเคราะห์มุ่งเป้าฯ ได้แก่ ยายับยั้ง JAK, ยายับยั้งTNF, ยายับยั้งไซโตไคน์ ได้แก่ IL-6R, IL-1, IL-17, IL-12/23 หรือ IL-23 ในช่วง 3 เดือนก่อนที่จะรับวัคซีนและ rituximab ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
2. ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ตามข้อ 1 มีความเสี่ยงต่อการเกิดโควิด 19 ที่รุนแรงและเสียชีวิต รวมทั้งมีการตอบสนองต่อวัคซีนโควิด 19 ได้ไม่ดีแม้จะได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ทั้งผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตาย ได้แก่ วัคซีนของบริษัทซิโนแวค (Sinovac) และบริษัทซิโนฟาร์ม (Sinopharm) หรือวัคซีนไวรัสเวกเตอร์ ได้แก่ วัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซเนก้า (AstraZeneca) หรือวัคซีนชนิด mRNA ได้แก่ วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) และบริษัทโมเดอร์นา (Moderna) ดังนั้นผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ําที่ได้รับได้รับวัคซีนสูตรต่าง ๆ ครบ 2 เข็มแล้ว ควรพิจารณาให้วัคซีนชนิด mRNA (Pfizer หรือ Moderna) ในขนาดปกติเพิ่มเติม ดังนี้
-รับ Sinovac หรือ Sinopharm 2 เข็ม สูตรแนะนำ คือ วัคซีน mRNA จำนวน 3 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน โดยเริ่มหลังจากได้รับวัคซีนเข็มสุดท้าย 1 เดือน
-รับ AstraZeneca, Pfizer หรือ Moderna 2 เข็ม สูตรแนะนำ คือ วัคซีน mRNA จำนวน 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน โดยเริ่มหลังจากได้รับวัคซีนเข็มสุดท้าย 1 เดือน
วัคซีนสูตรไขว้ ได้แก่
- Sinovac หรือ Sinopharm 1 เข็ม + AstraZeneca 1 เข็ม
- Sinovac หรือ Sinopharm 1 เข็ม + mRNA 1 เข็ม หรือ
- AstraZeneca 1 เข็ม + mRNA 1 เข็ม
สูตรแนะนำ คือ วัคซีน mRNA จำนวน 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน โดยเริ่มหลังจากได้รับวัคซีนเข็มสุดท้าย 1 เดือน
3. ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำและเคยเป็นโควิด 19 พิจารณาให้วัคซีน mRNA ดังนี้
-เป็นโควิด 19 หลังการได้รับวัคซีน Sinovac หรือ Sinopharm 2 เข็ม คำแนะนำ ให้ได้รับวัควีน mRNA จำนวน 2 เข็ม โดยเริ่มหลังการติดเชื้อ 1 เดือน
-เป็นโควิด 19 หลังการได้รับวัคซีน AstraZeneca, Pfizer หรือ Moderna 2 เข็มแล้ว คำแนะนำ ให้ได้รับวัคซีน mRNA 1 เข็ม โดยฉีดหลังการติดเชื้อ 1 เดือน
-เป็นโควิด 19 หลังได้รับวัคซีนสูตรไขว้ ได้แก่
- Sinovac หรือ Sinopharm 1 เข็ม + AstraZeneca 1 เข็ม หรือ
- Sinovac หรือ Sinopharm 1 เข็ม + mRNA 1 เข็ม หรือ
- AstraZeneca 1 เข็ม + mRNA 1 เข็ม
แนะนำให้ได้รับวัคซีน mRNA 1 เข็ม โดบฉีดหลังการติดเชื้อ 1 เดือน
ภาพจาก AFP