TNN จีนทำอย่างไรให้ SME เติบใหญ่ (ตอน 3) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

TNN

คอลัมนิสต์

จีนทำอย่างไรให้ SME เติบใหญ่ (ตอน 3) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

จีนทำอย่างไรให้ SME เติบใหญ่ (ตอน 3) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

จีนทำอย่างไรให้ SME เติบใหญ่ (ตอน 3) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน

รัฐบาลจีนผลักดันมาตรการอะไรออกมาช่วยเหลือ SME อีกบ้าง ไปติดตามกันต่อเลยครับ ...


มาตรการกลุ่มที่ 2 เกี่ยวข้องกับเรื่องทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งครอบคลุมในหลายแง่มุม เริ่มตั้งแต่การรักษาเสถียรภาพการจ้างงาน โดยจีนมีมุมมองที่น่าสนใจในประเด็นนี้ผ่านการมองเรื่องการบริหารจัดการการจ้างงานว่าเป็นความรับผิดชอบของภาครัฐ การปล่อยให้อัตราการว่างงานอยู่ในระดับที่สูงก็จะกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคและเสถียรภาพความมั่นคงของรัฐบาลในที่สุด


เราจึงเห็นรัฐบาลจีนติดตามปัญหาการว่างงานและผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด โดยกำหนดเป็นมาตรการระยะสั้นเพื่อให้มั่นใจว่า SME สามารถที่จะประกอบธุรกิจได้ต่อไป ผ่อนคลายข้อจำกัด และช่วยให้การจ้างงานดำเนินไปอย่างเสถียรภาพ


ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงต้นปี 2020 คณะรัฐมนตรีจีนได้ออกเอกสาร “ความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเสถียรภาพการจ้างงาน” ที่เสนอแนะให้ยกเลิกมาตรการจำกัดการกลับมาทำงานและการผลิตที่ไม่มีเหตุผล และการปรับปรุงมาตรฐานประกันภัยการว่างงานของ SME


จะเห็นได้ว่ารัฐบาลจีนมอง “การพักงาน” ว่าอาจส่งผลเสียในระยะยาว และพยายามทุกวิถีทางมิให้เกิด “การเลิกจ้าง” ของ SME โดยคณะรัฐมนตรีจีนเสนอขอให้ SME พิจารณาหลีกเลี่ยงการปลดคนงานหรือให้เลิกจ้างงานให้น้อยที่สุด

จีนทำอย่างไรให้ SME เติบใหญ่ (ตอน 3) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร ภาพจาก AFP

จีนจัดตั้งกองทุนรับประกันการจ้างงาน ยิ่งในกรณีของ SME ที่เติบโตเร็ว (Fast-Growing) รัฐบาลจีนก็สร้างกลไกการเพิ่มขีดความสามารถในการฃรองรับการจ้างงาน โดย SME สามารถรับเงินคืนจากเบี้ยประกันการว่างงานได้ 100% สำหรับพนักงานแต่ละคนที่ยังคงจ้างงานอยู่ต่อไป


อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญก็ได้แก่ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งอาจถือเป็นมาตรการในระยะยาว เริ่มจากการพยายามรักษาดีเอ็นเอ (DNA) ของการเป็นผู้ประกอบการเอาไว้


สิ่งนี้ทำให้ผู้ที่จบการศึกษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับอุดมศักษามิได้มุ่งมองหาแต่ตำแหน่งงานในบริษัทห้างร้านเท่านั้น แต่อาจเลือกที่จะ “สืบสาน” ธุรกิจของบรรพบุรุษที่สร้างไว้ หรือเผชิญกับการท้าทายครั้งใหม่ “ออกสู่ทะเลกว้าง” เพื่อหวังสร้างธุรกิจใหม่ของตนเอง


เพื่อให้ทรัพยากรมนุษย์มีความพร้อมอย่างแท้จริง จีนก็เดินหน้าจัดระเบียบระบบการศึกษา โดยมุ่งเน้นการผสมผสานการศึกษาแบบ “ไฮบริด” ที่ใส่ใจใน “ภาคทฤษฎี” ควบคู่ไปกับ “ภาคปฏิบัติ” และพยายามเสริมด้วยมุมมองด้านนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ดังเช่นในปัจจุบัน


ในเรื่องนี้ เราต้องยอมรับว่า จีนมีความได้เปรียบในการดำเนินการตามแนวคิดดังกล่าวให้เกิดเป็นรูปธรรมเหนือกว่าหลายประเทศ


เช่น ครั้งหนึ่งผมแวะไปสังเกตการณ์การเรียนวิชาหุ่นยนต์ในห้องเรียน นักเรียนระดับประถมการศึกษาก็มีโอกาสสัมผัสหุ่นยนต์จริงๆ หรือสามารถจัดคณะไปเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าใจการทำงานและการใช้ประโยชน์ของหุ่นยนต์ในเชิงพาณิชย์ได้อย่างแท้จริง


หรือครั้นจะเปิดการเรียนการสอนในวิทยาการใหม่ๆ จีนก็มักเตรียมการสร้างครูบาอาจารย์และส่วนอื่นๆ เป็นอย่างดี


ยกตัวอย่างเช่น ในการบรรจุ AI เข้าไปในหลักสูตรเรียนการสอนครั้งแรกเมื่อปี 2019 จีนก็จัดให้มีหนังสือเรียนเป็นภาษาจีนที่ได้รับการปรับปรุงสาระอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้ยังสะท้อนว่าจีนวางแผนและมีครูอาจารย์ นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านของตนเองมากพอ ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ


ขณะเดียวกัน นอกจากการส่งเสริมของภาครัฐแล้ว ภาคเอกชนของจีนก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยเปลี่ยนระบบการเรียนไปสู่มิติ “ภาคปฏิบัติ” และสนับสนุนนวัตกรรมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างแท้จริง


ยกตัวอย่างเช่น เต๋อเต้า (De Tao) สถาบันการศึกษาที่เกิดขึ้นจากการสนับสนุนของภาคเอกชนได้จับมือกับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้ โดยเชิญบุคลากรชั้นนำระดับ “กูรู” ของโลกมาทำหน้าที่เป็นคณะที่ปรึกษาพิเศษของสถาบันฯ และเชิญไปบรรยาย ร่วมทำวิจัยในโครงการที่เกี่ยวข้อง และเป็นสะพานเชื่อมไปสู่การทำตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายที่เหมาะสมอย่างสร้างสรรค์


จากคำบอกเล่าของผู้บริหารและคณาจารย์ของสถาบันฯ ทำให้ผมได้ “ค้นพบ” หลายสิ่งที่น่าสนใจ ยกตัวอย่างเช่น ในวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ อาจารย์ประจำวิชาอาจกำหนดให้ “น้ำ” เป็นแนวคิดหลักในการออกแบบสินค้าที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นอิสระ นักศึกษาอาจนึกถึงสารพัดสินค้าตั้งแต่แก้วน้ำ รองเท้ายางกันน้ำ ร่ม เสื้อกันฝน ชุดประดาน้ำ แพยาง และอื่นๆ


เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ อาจารย์ประจำวิชาท่านหนึ่งหยุดบรรยายและเชื้อเชิญให้นักศึกษาออกไปยืนตากฝนเพื่อฟังเสียงเรียกร้องจาก “สายฝน” การเรียนการสอนในแต่ละสัปดาห์กระตุ้นความคิดเพื่อให้นักศึกษารังสรรค์สินค้าที่แตกต่าง มีฟังชั่นที่ดีตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภค และออกแบบโมเดลธุรกิจเพื่อเอาชนะสินค้าเดิมที่มีอยู่ในท้องตลาดได้ในเชิงพาณิชย์

จีนทำอย่างไรให้ SME เติบใหญ่ (ตอน 3) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร ภาพจาก AFP

นอกจากนี้ การศึกษาแห่งนี้ยังถูกออกแบบการเรียนการสอนในระบบ “พิชชิ่ง” (Pitching) ที่การนำเสนอผลงานในแต่ละเทอมการศึกษาอยู่ในรูปแบบของโครงการที่เป็นรูปธรรม ไล่ตั้งแต่การออกแบบโทนสี ลายผ้า จนนำไปสู่งานออกแบบเสื้อผ้าสำเร็จรูป


สินค้าต้นแบบเหล่านี้ถูกนำเสนอต่อคณาจารย์และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในตอนปลายภาค เช่น การจัดประกวดเดินแบบ ซึ่งอาจนำไปสู่ความร่วมมือในเชิงธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการกับนักศึกษา และสร้างทรัพยากรมนุษย์เพื่อเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ไปพร้อมกัน


และเพื่อให้เหมาะสมกับโลกของความเป็นจริง สถาบันฯ ก็ยังร่วมมือกับผู้จัดงานเดินแบบชั้นนำอย่าง Shanghai Fashion Week นำเอาผลงานที่ผ่านการประกวดเหล่านั้นไปจัดแสดงและเดินแบบในงานดังกล่าว ซึ่งเป็นการ “ยกระดับ” ผลงานของนักศึกษาสู่ระดับโลกอย่างรวดเร็ว


นอกจากนี้ ภาครัฐและเอกชนยังร่วมมือกันจัดประกวดแข่งขันโครงการใหม่ๆ มากมายและต่อเนื่องในทุกระดับ กิจกรรมเหล่านี้ช่วย “ลับคมสมอง” ทรัพยากรมนุษย์ที่มีอยู่ และนำไปสู่การสร้างสตาร์ตอัพและโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างแท้จริง


นักศึกษายังอาจเลือก “เดินหน้า” โครงการดีๆ ใน “ชั้นเรียน” ต่อไปรับความช่วยเหลือและการสนับสนุนส่งเสริมจากสารพัดโครงการ “บ่มเพาะธุรกิจ” ที่กระจายในหลายพื้นที่ต่อไป


ในสวนอุตสาหกรรมไฮเทคที่กระจายอยู่นับร้อยแห่งในจีน เรายังอาจสังเกตเห็นศูนย์พัฒนาเด็กพรสวรรค์ที่เปิดโอกาสให้ทรัพยากรชั้นหัวกระทิที่มีความคิดอ่านดีๆ ไม่ว่าจะเป็นชาวจีนหรือชาวต่างชาติ สามารถเข้าไปขอรับการสนับสนุนและการบ่มเพาะได้  


ยิ่งพอรัฐบาลจีนยกระดับนโยบายสู่ “การพัฒนาคุณภาพสูง” ในช่วง 2-3 ปีหลังนี้ ก็ยิ่งทำให้การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาและวิจัยในจีนมีความ “เข้มข้น” และ “เปิดกว้าง” ยิ่งขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่จีนสามารถสร้าง SME ที่เปี่ยมด้วยศักยภาพในการแข่งขันเป็นจำนวนมากในช่วงหลายปีหลัง


ไปคุยกันต่อว่า จีนทำอย่างไรกับการส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมผ่านการวิจัยและพัฒนา และอื่นๆ ในตอนหน้าครับ ...



ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง