TNN จุดยืนของจีนกับการก้าวกระโดดครั้งใหม่ของ BRICS โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

TNN

คอลัมนิสต์

จุดยืนของจีนกับการก้าวกระโดดครั้งใหม่ของ BRICS โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

จุดยืนของจีนกับการก้าวกระโดดครั้งใหม่ของ BRICS โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

จุดยืนของจีนกับการก้าวกระโดดครั้งใหม่ของ BRICS โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน

จุดยืนของจีนกับการก้าวกระโดดครั้งใหม่ของ BRICS โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน


การประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ 15 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติ เมืองโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ที่เสร็จสิ้นลงไปเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม สะท้อนถึงการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของกลุ่มสมาชิกประเทศกำลังพัฒนา 

ปัจจุบัน BRICS มีสมาชิกเดิม 5 ประเทศ อันได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ และมีอิทธิพลอย่างมากในเวทีโลก โดยในเชิงประชากร คิดเป็นกว่า 40% ของจำนวนประชากรโลก เกือบ 30% ของ GDP โลก และ 20% ของการค้าระหว่างประเทศโดยรวม


จุดยืนของจีนกับการก้าวกระโดดครั้งใหม่ของ BRICS โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

ภาพจาก reuters


ที่ประชุมในครั้งนี้ยังได้ตกลงกันในหลายประเด็น ประการแรก  BRICS Plus ที่ประชุมตกลงที่จะรับสมาชิกใหม่จำนวน 6 ประเทศ อันได้แก่ อาร์เจนตินา อียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี 

เท่ากับว่า BRICS รับสมาชิกใหม่ในคราวเดียวถึงเท่าตัว จาก 5 ประเทศเป็น 11 ประเทศ 

แม้จะต่ำกว่าจำนวนที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ แต่ก็มีลิสต์อีกกว่า 20 ประเทศที่ลงชื่อเข้าคิวรอเป็นสมาชิกใหม่อยู่ในอนาคต การเพิ่มสมาชิกใหม่ยังเป็นการขยายอิทธิพลของ BRICS ในเชิงเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมใหม่ หรือ จี 7 ให้ถ่างกว้างมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ก็เป็นการปลดพันธนาการประเทศกำลังพัฒนาจาก “โซ่ตรวน” ที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรยึดตรึงไว้ เพราะตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา BRICS และประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากต่างต้องเผชิญกับระเบียบโลกที่ครอบงําโดยสหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตก 

การเพิ่มจำนวนสมาชิกดังกล่าวจึงแสดงให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวา ความน่าดึงดูดใจ และคุณค่าเชิงกลยุทธ์ของกลไกความร่วมมือของ BRICS ในเวทีระหว่างประเทศ และมีส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับ BRICS เป็นอย่างมาก


จุดยืนของจีนกับการก้าวกระโดดครั้งใหม่ของ BRICS โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

ภาพจาก reuters


ในการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสุดยอด BRICS ครั้งนี้ สี จิ้นผิง ผู้นำจีนยังใช้โอกาสนี้ในการนำเสนอวิสัยทัศน์ในการขยายความร่วมมือของ BRICS โดยเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกร่วมกันส่งเสริมความร่วมมือคุณภาพสูง ทําให้ธรรมาภิบาลโลกมีความเป็นธรรมและเท่าเทียมกันมากขึ้น และเสริมสร้างความมั่นใจ เสถียรภาพความมั่นคง และพลังเชิงบวกเข้าสู่โลก

ทั้งนี้ 6 ประเทศ “หน้าใหม่” ดังกล่าวจะกลายเป็นสมาชิกเต็มรูปในวันที่ 1 มกราคม 2024 ผู้นำจีน กล่าวไว้อย่างน่าคิดว่า การพัฒนาเป็นสิทธิของทุกประเทศที่ไม่อาจยึดครองได้ … และเรียกการเพิ่มสมาชิกในครั้งนี้ว่า "ประวัติศาสตร์"

 ประการที่ 2 เงินสกุลท้องถิ่นสยายปีก ที่ประชุมยังได้แสดงจุดยืนว่า BRICS พร้อมที่จะสํารวจโอกาสในการใช้สกุลเงินท้องถิ่น 

โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของประเทศสมาชิกไปหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับแนวคิดนี้และคาดว่าจะรายงานต่อผู้นําในการประชุมสุดยอดครั้งต่อไป

ประเด็นความร่วมมือนี้อาจต่ำกว่าความคาดหวังของหลายฝ่าย เพราะกระแสข่าวก่อนหน้านี้ประเมินว่า รัสเซียและจีนจะจับมือกันเสนอให้พิจารณาความเหมาะสมในการจัดตั้งสกุลเงินร่วม BRICS

แต่ข้อตกลงนี้ก็จะส่งผลให้สมาชิกเดิมและโลกในภาพรวมลดการพึ่งพาเงินเหรียญสหรัฐฯ โดยตรงอย่างแน่นอน

ยิ่งเรามองต่อไปถึงสมาชิกใหม่หลายรายที่เป็นผู้เล่นหลักในเวทีการค้าสินค้าพลังงานและโภคภัณฑ์อื่นด้วยแล้ว เราก็พอจะคาดเดาได้ว่า ปี 2023 อาจถือเป็นปีแห่งการเสื่อมถอยของเงินเหรียญสหรัฐฯ ในเวทีโลกอย่างเป็นทางการก็ได้

 

จุดยืนของจีนกับการก้าวกระโดดครั้งใหม่ของ BRICS โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

ภาพจาก reuters


ประการที่ 3 BRICS เสริมใยเหล็ก ในประเด็นนี้ สี จิ้นผิง ได้เรียกร้อง ให้ประเทศสมาชิก “จับมือแน่น” เพื่อเดินหน้าสู่อนาคตใหม่ที่ดีกว่าร่วมกัน

“เรารวมตัวกันในช่วงเวลาสําคัญเพื่อสร้างความสําเร็จในอดีตของเราและเปิดอนาคตใหม่สําหรับความร่วมมือ BRICS” สี จิ้นผิงกล่าวกับผู้นําประเทศสมาชิก

นอกจากนี้ จีนยังได้วางมาตรการมากมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือของ BRICS อาทิ การจัดตั้ง China-BRICS Science and Innovation Incubation Park เพื่อสนับสนุนธุรกรรมการค้า และผลผลิตด้านนวัตกรรม รวมทั้งยังจะมีการจัดตั้งแพลตฟอร์มความร่วมมือด้านข้อมูลดาวเทียมและแอปพลิเคชันการสํารวจระยะไกลทั่วโลกเพื่อสนับสนุนข้อมูลด้านการเกษตร การอนุรักษ์ระบบนิเวศ และการลดภัยพิบัติทางธรรมชาติ

ประการที่ 4 BRICS กับสันติภาพโลก สี จิ้นผิง ยังเน้นย้ําถึงความจําเป็นที่ BRICS จะขยายความร่วมมือทางการเมืองและความมั่นคงเพื่อรักษาสันติภาพและความเงียบสงบ สําหรับวิกฤตยูเครน ผู้นำจีนกล่าวว่าเรื่องเร่งด่วนในตอนนี้คือ การส่งเสริมการเจรจาสันติภาพ ส่งเสริมการลดระดับความขัดแย้ง ยุติการต่อสู้ และตระหนักถึงสันติภาพ

“ไม่มีใครควรเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟเพื่อทําให้สถานการณ์แย่ลง” สี จิ้นผิงกล่าวเสริม

จีนยังพยายามผลักดันให้ BRICS ร่วมกันสนับสนุนซึ่งกันและกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลักที่เกี่ยวข้อง และเพิ่มการประสานงานในประเด็นสําคัญระดับนานาชาติและระดับภูมิภาค

BRICS ยังตกลงที่จะเปิดตัวกลุ่มศึกษาเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ภายใต้สถาบัน BRICS แห่งเครือข่ายอนาคตโดยเร็ว 

โดยจีนเรียกร้องให้มีการขยายความร่วมมือระหว่างประเทศเกี่ยวกับ AI และการเพิ่มการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความร่วมมือทางเทคโนโลยี จีนยังตอกย้ำจุดยืนเกี่ยวกับการจัดระเบียบสังคมโลก และการปรับปรุงธรรมาภิบาลโลก 


จุดยืนของจีนกับการก้าวกระโดดครั้งใหม่ของ BRICS โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

ภาพจาก reuters


สี จิ้นผิง กล่าวในประเด็นนี้ว่า กฎระเบียบระหว่างประเทศจะต้องเขียนและยึดถือร่วมกันโดยทุกประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ "แทนที่จะกําหนดโดยผู้ที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรงที่สุดหรือเสียงดังที่สุด"

การประชุมสุดยอด BRICS ครั้งหน้าคงเต็มไปด้วยพลังและสีสัน และผมเชื่อมั่นว่า BRICS จะกลายเป็นเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศที่โลกจะจับตามองอย่างใกล้ชิด 

เพราะความตกลงใดๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาและจะคลอดออกมาในอนาคต จะ “เปลี่ยนโลก” อย่างแน่นอน …

จุดยืนของจีนกับการก้าวกระโดดครั้งใหม่ของ BRICS โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

ภาพจาก reuters



ภาพจาก reuters


ข่าวแนะนำ